กังวลคว่ำบาตรอิหร่านดันราคาน้ำมันดิบปิดบวก

กังวลคว่ำบาตรอิหร่านดันราคาน้ำมันดิบปิดบวก

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี(26เม.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น เพิ่มขึ้น 14 เซนต์เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ประกอบกับกำลังการผลิตน้ำมันที่ลดลงในเวเนซุเอลา รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 68.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า เขาคาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านในปี 2558

ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอีก 5 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ โดยปธน.ทรัมป์ มีเวลาจนถึงวันที่ 12 พ.ค.นี้ ที่จะตัดสินใจว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านหรือไม่

ข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศพี5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้พี5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

กระทั่งเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ปีที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่าน ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ และมีการละเมิดหลายครั้ง

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ ซึ่งพุ่งขึ้น 25% นับตั้งแต่กลางปี 2559 สู่ระดับ 10.54 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกตามหลังรัสเซีย ซึ่งผลิตน้ำมันเกือบ 11 ล้านบาร์เรล/วัน