ผลประกอบการบริษัทแกร่งหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ผลประกอบการบริษัทแกร่งหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (25เม.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่าผลประกอบการบริษัทอเมริกันจะสดใส หลังจากดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 200 จุด ช่วงเปิดตลาดเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 59.7 จุดหรือ 0.25% ปิดที่ 24,083.83 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.84  จุดหรือ 0.18% ปิดที่ 2,639.4 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง  3.62 จุดหรือ 0.05% ปิดที่ 7,003.74 จุด

ทั้งนี้ หุ้นทุกกลุ่มต่างปรับตัวลง แต่หุ้นโบอิ้งทะยานขึ้นสวนทางตลาด ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส โดยบริษัทมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ผลกำไรอยู่ที่ 3.64 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 2.338 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะมีกำไรที่ระดับ 2.58 ดอลลาร์/หุ้น และมีรายได้ 2.226 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนบริษัททวิตเตอร์ อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 เช่นกัน โดยบริษัทมีกำไร 16 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 12 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังระบุรายได้ที่ระดับ 655 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 608 ล้านดอลลาร์ ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ระดับ 336 ล้านคน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 334.2 ล้านคน

เมื่อวันอังคาร (24เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดดิ่งลงกว่า 400 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปีนั้น จะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น และอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ยังคงปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3% ในวันนี้ หลังจากที่ได้ทะลุระดับดังกล่าวเมื่อวานนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557