ตร.บุกทลายเเหล่งปลอม 'บัตรต่างด้าว' ยึดของกลางเพียบ

ตร.บุกทลายเเหล่งปลอม 'บัตรต่างด้าว' ยึดของกลางเพียบ

ตร.บุกทลายเเหล่งปลอม "บัตรต่างด้าว" ยึดของกลางอุปกรณ์ผลิตเพียบ ชี้ลูกค้าส่วนใหญ่เลี่ยงปฏิบัติตามกฎหมายเเรงงาน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 เม.ย.2561 พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.นภัสพงษ์ ทัศนา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุมตัวนายเอกชัย เยียระยงค์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหา

พร้อมยึดของกลางบัตรประจำตัวคนต่างด้าวปลอม จำนวน 10 ใบ เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัน เครื่องปริ้นเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องเคลือบบัตร จำนวน 1 เครื่อง เครื่องตัดบัตร จำนวน 1 เครื่อง แผ่นกระดาษที่ผ่านการตัดออกเป็นรูปบัตรแล้วจำนวน 2 ใบ แผ่นชุดทำบัตรขนาดเท่ากระดาษ A4 จำนวน 18 แผ่น เครื่องสำรองไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง ทรัมป์ไดรฟ์ จำนวน 1 อัน โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณร้านจีเอ ดีไซน์ ภายในซอยอิสระภาพ31 ถนนอิสรภาพ แขวงหลังวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.พรศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.ได้สืบทราบว่า มีผู้เปิดร้านรับทำบัตรประจำตัวคนต่างด้าวปลอม (ลาว, เขมร, พม่า) แต่เปิดร้านทำป้าย อิงค์เจ็ท แผ่นไวนิล สติ๊กเกอร์ และฉลากสินค้าบังหน้า โดยมีพฤติการณ์รับทำบัตรต่างด้าวปลอมมานานหลายปี โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่ต้องการเข้ารับทำงานจากนายจ้างชาวไทย แต่ไม่อยากปฏิบัติตามกฎหมาย จึงหาช่องทางลัดเพื่อให้ได้อาชีพทำในประเทศไทย ซึ่งทางตำรวจถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎของ คสช. จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าภายในร้านดังกล่าว มีนายเอกชัย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านกำลังนั่งทำบัตรต่างด้าวปลอม ทางตำรวจจึงทำการจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมด ก่อนควบคุมตัวสอบสวน ที่ บก.สส.บช.น.สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างในการทำบัตรราคาใบละ 1,000 บาท และเพิ่งรับทำบัตรดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ลูกค้าไปแล้ว 40-50 ราย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อใจคำให้การ เนื่องจากผู้ต้องหามีความชำนาญในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้สร้างหรือปลอมเอกสาร จึงทำการยึดเครื่องคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่ามีข้อมูลการลักลอบปลอมแปลงเอกสารราชการอื่นๆ อีกหรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ปลอมเอกสารราชการ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายพิชิต นิลทองคำ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็เคยตรวจพบการปลอมบัตรต่างด้าว แต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งการสังเกตบัตรว่าเป็นบัตรปลอมหรือไม่ ให้ดูภาพรวมของสี บัตรจริงจะมีความสว่างสดใสกว่าและตัวอักษรจะมีความคมชัด และในหน้าบัตรจะมีตราครุฑอยู่ รวมถึงมีลายน้ำตราสิงห์อยู่ หากเป็นบัตรปลอมจะมีสีซีดและจะไม่มีลายน้ำ โดยต่อไปจะมีรูปแบบบัตรใหม่ คือ เพิ่มคิวอาร์โค้ดเข้ามาด้านหลังบัตร ทำให้ต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบว่าบุคคลต่างด้าวถือบัตรจริงหรือไม่ ก็สามารถสแกนจากคิวอาร์โค้ดได้เลย