MORNING CALL ACTION NOTES (25 เม.ย.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (25 เม.ย.61)

อ่อนตัวตามเพื่อนบ้าน

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องก่อนอ่อนตัวจนมาปิดแดนลบเล็กน้อย หนุนโดยกลุ่ม ENERG  ICT และ ENTER จากปัจจัยบวกในประเทศ คือการเปิดประมูลแหล่งก๊าสธรรมชาติ การเซ็นสัญญาระหว่าง DTAC และ TOT และการใช้ ม.44 ช่วยเหลือทีวีดิจิทัล ถูกหักล้างโดยกลุ่ม BANK หลังรายงานกำไร 1Q61 ครบทุกราย โดย โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,788.20 จุด (-1.94 จุด) Volume 7.89 หมื่นลบ. Foreign Net -2,672.94 ลบ.  TFEX Net +8,461 สัญญา ตราสารหนี้ –5,149.43 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐเพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนมี.ค. และดัชนีราคาบ้านสหรัฐพุ่งขึ้น 6.3% ในเดือนก.พ.  สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 128.70 ในเดือนเม.ย.      

- ดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 400 จุดเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3% ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น และอาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

- น้ำมันดิบปิดลบเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันเพื่อทำกำไร

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 7.29 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.47 บาท/USD

** จับตาบอร์ดกสทช.ชุดรักษาการประชุมเดินหน้าประมูลคลื่น 1800-900 MHz

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยกดดันจากการร่วงแรงของตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่ลดลงในเช้านี้ จากความกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปเร็วกว่าคาดจากจากตัวเลขศก.ที่ดีและเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงจากการขายทำกำไร  ปัจจัยบวก  คาด  SET จะอ่อนตัวลงก่อนในกรอบ 1,777-1,797 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- MONO ครม.พักชำระหนี้-ลดค่า MUX 50% ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล

- CENTEL ERW จำนวนนักท่องเที่ยวมี.ค. เพิ่ม 16%YoY จีนโต 27%YoY

- กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ HANA DELTA KCE และกลุ่นสินค้าส่งออก GFPT TU XO TFG BR เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.47 บาท/USD

- PSL TTA ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น 26%MTD สู่ 1,330 จุด

- PTTEP PTTGC IRPC ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงที่ 67.70 $/bbl

- หุ้นปันผลเด่น QH KKP PDI BAFS GLOW KIAT NYT PL AP

หุ้นแนะนำพิเศษ

PSL (ราคาปิด 12.60 Bloomberg Consensus เฉลี่ย 14.92 บาท)

ดัชนี BDI : วานนี้ปรับตัวขึ้น 1.8% รวมปรับเพิ่มขึ้นิตดต่อกันแรงกว่า 40 %  ใน12 วันทำการ มาอยู่ที่ 1,330 จุด หลังจากแนวโน้มการผลิตเหล็กของจีนที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยงวด 1Q61 เพิ่มขึ้นกว่า 4.5%YoY  ตลอดจนการส่งออกสินแร่เหล็กจาก Port Hedland (ท่าเรือเทกองที่ใหญ่ที่สุดในโลก) ในเดือน มี.ค. 61 เติบโตกว่า 9%YoY มาอยู่ที่ 42.9 ล้านตัน (คิดเป็นสินแร่เหล็กกว่า 95%

ความเห็น ดัชนีดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อ PSL มากสุด โดยแม้ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงนี้ กว่า 16.7% แต่คาดว่าการปรับตัวขึ้นแรงของดัชนี BDI ดังกล่าว น่าจะหนุนให้ยังเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเก็งกำไรต่อได้

หุ้นมีข่าว   

Analyst Meeting : EPG (ราคาปิด 6.95 บาท Bloomberg Consensus 11.07)

·        ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ฉนวนกันความร้อน (Aeroflex) ทั้งกับระบบหล่อเย็น และหลังคาบ้าน ชิ้นส่วนรถยนต์ (Aeroklas) อาทิ พื้นปูกระบะ บันไดข้างรถกระบะ ทั้งในและต่างประเทศ และบรรจุภัณฑ์อาหาร (EPP) ในประเทศ และเป็นเจ้าของแบรด์จำหน่ายอุปกรณ์รถ 4x4 ที่ประเทศออสเตรเลีย (TJM) ผลประกอบการล่าสุดงวด 9M60/61 (สิ้นสุด ธ.ค. 61) อ่อนตัว 31%YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงหลังค่าเงินบาทแข็งค่า (ส่งออกสินค้ากว่า 32%) ราคาน้ำมันขึ้น (มีสัดส่วนต้นทุนจากปิโตรเคมีกว่า 15 - 20%) และหดตัวของภาคการบริโภคกดดันธุรกิจ Packaging ในประเทศ

·        สำหรับแผนงานรายธุรกิจ 1) Aeroflex : เน้นขยายตลาดต่างประเทศจากการเพิ่ม Capacity อีกราว 10% และมีแผนการก่อสร้างโรงงานใหม่เพิ่มสิ้นงวด 4Q60/61 คาดใช้เวลาก่อสร้าง 1 ปี 2) Aeroklas : ยังตั้งเป้าอัตราใช้กำลังการผลิตใกล้เคียงเดิม แต่มุ่งเน้นการแก้ไข TJM (ปัจจุบันสร้างผลขาดทุนให้แก่บริษัทราวปีละ 100 ล้านบาท) คือ การค้นหา Top product จากการเป็นเจ้าของสาขาเอง 2 สาขาจากทั้งหมด 60 กว่าสาขา 3) EPP เพิ่มสินค้ากลุ่มใหม่ระดับกลางถึงล่างมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ Food Packaging  พร้อมกับมีแผนขยายกำลังการผลิตด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ อีกราว 10%

·        ความเห็น ความพยายามทั้งส่วน TJM และ EPP ยังต้องติดตามในระยะ 2 - 3 ปี ว่าจะสามารถมาหนุนให้บริษัทเข้าสู่จุดคุ้มทุน และมี Volume จากสินค้าใหม่เข้ามาทดแทนสินค้าเดิมที่เผชิญการแข่งขันด้านราคาได้หรือไม่ ขณะที่ในระยะสั้น ยังอาจถูกกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่า และราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นสูง (แม้มีการผลักภาระต้นทุนให้แก่ลูกค้าได้บางส่วน) โดยรวมจึงแนะนำให้ติดตามความสำเร็จเบื้องต้นของแผนงานระยะกลางไปก่อน

·        + VGI ลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นลงทุน 23%ใน"เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย)" มูลค่า 5.9 พันลบ. ชำระเป็นเงินสด

·        + CWT เผยโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 9.9 MW ในจ.สระแก้ว เตรียม COD วันนี้ พร้อมเริ่มรับรู้รายได้ทันที

·        + DTAC (ราคาปิด Bloomberg Consensus 51.76 บาท) ภาครัฐฯใช้ ม.44 เบรกสรรหาคณะกรรมการ กสทช. ไว้ก่อน และให้กรรมการ กสทช. ชุดปัจจุบันยังคงดำรงตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ตามความจำเป็นไปพลางก่อน หากมีกรรมการคนหนึ่งคนใดพ้นจากตำแหน่งให้กรรมการที่เหลือปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ)

·        ความเห็น การใช้มาตรการภาครัฐฯดังกล่าว น่าจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้ การประชุมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 1800 MHz จากที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.ในวันนี้ มีแนวโน้มไปสู่ทิศทางการประมูลมากขึ้น ซึ่งผลบวกยังคงสนับสนุนต่อ DTAC ที่แม้ล่าสุดจะมีการเซ็นสัญญากับ TOT (คลื่น 2300 MHz จำนวน 60 MHz ระยะเวลาสัญญา 7 ปี)  แต่หากได้คลื่นเพิ่มเติมน่าจะหนุนให้ DTAC มีความแข็งแกร่งพร้อมสำหรับดำเนินกลยุทธ์การแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงแนะนำให้ “ซื้อ”

·        (+) HMPRO (ราคาปิด 14.70 Bloomberg Consensus 14.90) แจ้งงบไตรมาส 1/61 โกยกำไรสุทธิ 1,248 ล้านบาท พุ่ง 19.33% กวาดรายได้ 15,900 ล้านบาท โต 4% มีการขยายสาขาตามแผน ชูจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย งาน HomePro Expo-งาน HomePro Fair หนุนยอดขายโต (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของ HMPRO การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วสนับสนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 5.7 พันล้านบาท +16% ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER 40 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 36 เท่า แนะนำ ทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

·        CPN (ราคาปิด 81.50 Bloomberg Consensus 89.53) ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท ผุดโครงการ เซ็นทรัล วิลเลจ ซึ่งจะพัฒนาเป็นโรงแรมจำนวน 200 ห้อง คาดเปิดให้บริการไตรมาส 3/2562  ด้านผลงานปีนี้โต บุ๊ครายได้ค่าเช่าจากศูนย์การค้าแห่งใหม่ ครึ่งปีหลังเตรียมเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 โครงการ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงานในอนาคต Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 1.24 หมื่นลบ. +26% จากกำไรปกติ ในปี 60 9,893 ลบ. ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษในการได้รับสินไหมทดแทน 3.5 พันล้านบาทและรายได้สุทธิจจากการแปลง CPNRF เป็น CPNREIT และการให้เช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช (บางส่วน) และโรงแรมฮิลตัน พัทยาจำนวน 175 ล้านบาท  แนวโน้มกำไร 1Q61 มีแนวโน้มเติบโต YoY ลดลง QoQ

·        (+) PACE  หมดกังวลนำเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซื้อหุ้น PP1-PP3 คืนจาก
อพอลโล-โกลด์แมนแซคส์ฯแล้ว พร้อมนำเงิน 4 พันล้านบาทจ่ายหนี้ตั๋ว B/E และหนี้แบงก์ ฟุ้งงบปี 62 กลับมาพลิกมีกำไรจากการโอนคอนโดฯ “นิมิต หลังสวน” มูลค่า 8 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจดีน แอนด์ เดลูก้า ย้ำยังไม่มีแผนขาย (ที่มา ข่าวหุ้น)