(สกู๊ป) 5ตัวเต็งกุนซือคนใหม่"อาร์เซนอล"

(สกู๊ป) 5ตัวเต็งกุนซือคนใหม่"อาร์เซนอล"

ปลายสัปดาห์ที่แล้วเกิดข่าวที่สะเทือนวงการลูกหนังอังกฤษ รวมไปถึงทั่วโลก นั่นก็คือการที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือจอมเก๋าของ อาร์เซนอล

     ตัดสินใจวางมือจากตำแหน่งผู้จัดการทีม “ปืนใหญ่” อย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ หลังทำงานร่วมกับทีมมาถึง 22 ปี  เทรนเนอร์วัย 68 ปี เข้ามาคุมทัพ “เดอะ กันเนอร์ส” เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงซีซั่น 1996-97 พร้อมเป็นเฮดโค้ชที่พา อาร์เซนอล ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ( 1997-98, 2001-02, 2003-04) ซึ่งในฤดูกาล 2003-04 คือการได้แชมป์แบบไร้พ่าย, แชมป์เอฟเอ คัพ 7 สมัย (1997-98, 2001-02, 2002-03, 2004-05, 2013-14, 2014-15, 2016-17) และคว้าดับเบิลแชมป์ในปี 1998 และ 2002 ด้วยสไตล์การเล่นอันสวยงามจนเป็นเอกลักษณ์ของทีม

     ถึงกระนั้นในช่วงหลัง อาร์เซนอล กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร รวมถึงผลงานของทีมก็ตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะในซีซั่นนี้ที่พวกเขาอยู่ในอันดับ 6 ของตาราง ตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อันดับ 4 ถึง 14 แต้ม (ก่อนเกมพบเวสต์แฮม) และเหลือลุ้นแค่เพียงฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก เพียงถ้วยเดียวเท่านั้น

     ทำให้สุดท้ายแล้วเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส ได้ตัดสินใจอำลาถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ในช่วงซัมเมอร์นี้ พร้อมกล่าวว่า “หลังจากที่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และได้พูดคุยกับสโมสร ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผมจะก้าวลงจากตำแหน่งหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ผมขอขอบคุณสโมสรที่ให้โอกาสผมได้มารับใช้ทีม และมีช่วงเวลาที่อยู่ในความทรงจำมากมายหลายปี ผมทุ่มเทเต็มที่เพื่อสโมสรมาโดยตลอด ผมอยากขอบคุณสตาฟฟ์, นักเตะ, ผู้บริหาร และแฟน ๆ ที่ทำให้สโมสรแห่งนี้มีความพิเศษ ผมอยากขออะไรเป็นครั้งสุดท้ายให้แฟนๆ ช่วยหนุนหลังทีมให้จบได้ดีที่สุด สำหรับคนที่รัก อาร์เซนอล ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันปกป้องคุณค่าของสโมสรแห่งนี้ต่อไป ซึ่งส่วนตัวผมนั้นจะรักและสนับสนุนสโมสร อาร์เซนอล ตลอดไป”

      หลังการประกาศอำลาตำแหน่งดังกล่าวทำให้สื่ออังกฤษ รวมถึงบริษัทรับพนันถูกกฎหมายได้เลือก 5 กุนซือตัวเต็งที่จะเข้ามาสานต่องานของ เวนเกอร์ ในฤดูกาลหน้าต่อไป

คาร์โล อันเชล็อตติ
    ถ้าจะพูดถึงผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์สูง และประสบความสำเร็จมากแล้วอย่างมากมายในวงการลูกหนัง หลายคนคงจะนึกถึงชื่อของ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนรายนี้อย่างแน่นอน
    สำหรับ อันเชล็อตติ ผ่านงานคุมทัพให้กับทีมใหญ่ๆของลีกยุโรปมาแล้วอย่างมากมาย ทั้ง เอซี มิลาน, เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เชลซี และบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเข้าก็พาทีมเหล่านี้คว้าถ้วยรางวัลมาประดับตู้สโมสรแล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับ “ปีศาจแดงดำ” ซึ่งเจ้าตัวพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาครองได้ถึง 2 สมัย ในช่วงเวลา 9 ปีที่อยู่กับทีม ทำให้เขาถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับ อาร์เซนอล ที่ต้องการกลับสู่เส้นทางของการเป็นทีมมหาอำนาจอีกครั้ง
      ถึงกระนั้นกุนซือวัย 58 ปี มีปัญหาเรื่องการปรับตัวกับทีมที่เน้นเกมรุก จากการที่เห็นได้จากตอนเจ้าตัวคุมทัพ “เสือใต้” ก่อนถูกปลดจากตำแหน่ง เนื่องจากแท็คติกของเจ้าตัวคือการรับ และสวนกลับอย่างแม่นยำ ซึ่ง “เดอะ กันเนอร์ส” ในช่วงก่อนหน้านี้คือทีมที่เน้นเกมรุกแบบเต็มสูบ ทำให้คาดว่าหากเขาเข้ามาคุม อาร์เซนอล จริงจะต้องมีการปรับตัวกันขนานใหญ่

โธมัส ทูเคิล

     หากเอ่ยชื่อถึงผู้จัดการทีมที่แฟนๆ “ปืนใหญ่” อยากได้ตัวมาคุมทีมมากที่สุดคนหนึ่ง คงจะหนีไม่พ้นผู้จัดการทีมชาวเยอรมันรายนี้อย่างแน่นอน เพราะ ทูเคิล เหมือนกับถอดแบบของ เวนเกอร์ มาในหลายๆอย่าง ทั้งการการเน้นเกมรุกเป็นหลัก และเน้นให้โอกาสเด็กดาวรุ่งในทีม ซึ่งเราได้เห็นจากการที่เจ้าตัวคุม ไมนซ์ และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แล้ว
     อย่างไรก็ตามสิ่งที่เฮดโค้ชวัย 44 ปี ต่างกับ เวนเกอร์ นั่นก็คือเขาเป็นคนที่ชอบคิดเร็วทำเร็วตามแบบกุนซือสมัยใหม่ และเปลี่ยนแผนการเล่นระหว่างเกมอยู่เสมอ ซึ่งทำให้ทีมมีความสมดุลมากขึ้น ขณะที่กุนซือเลือดเฟรนช์เลือกที่จะเชื่อในแท็คติกที่ตนเองวางมาตั้งแต่ตอนแรกมากกว่า
     ทำให้หลังจากที่ ทูเคิล ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม “เสือเหลือง” เขาก็ตกเป็นข่าวว่ามีหลายทีมดังของยุโรปต้องการดึงตัวไปร่วมทีม ทั้ง เชลซี, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รวมถึง อาร์เซนอล เอง แต่ทีมที่เจ้าตัวมีข่าวด้วยมากที่สุดคือ เปแอสเช แต่ก็ยังไม่มีการตกลงแบบเป็นเรื่องเป็นราวแต่อย่างใด

หลุยส์ เอ็นริเก

     ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชรายนี้ ยังไม่ยอมรับงานคุมทีมใดๆหลังลาจากตำแหน่งเฮดโค้ช บาร์เซโลนา เมื่อปี 2017 แม้จะได้รับการตามจีบจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รวมถึงทีมในลีก กัลโช่ เซเรีย อา และลีกตะวันออกกลาง
     โดยสาเหตุที่เชื่อว่าเทรนเนอร์วัย 47 ปีรายนี้ยังไม่ยอมรับงานใหม่เนื่องจากเจ้าตัวชื่นชอบในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นลีกที่มีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์กว่าที่อื่นๆ นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยลงทุนไปเรียนภาษาอังกฤษมาแล้วอีกด้วย ทำให้เป็นที่คาดการณ์ว่าเป้าหมายต่อไปของเขาในการกลับเข้าสู่วงการลูกหนังคือการคุมทีมในลีกสูงสุดแดนผู้ดีอย่างแน่นอน
     และล่าสุดมีข่าวจาก “สกายสปอร์ต” สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า เอ็นริเก อยากจะเข้ามาคุมทีม “ปืนใหญ่” เป็นอย่างมากหลังตำแหน่งกุนซือว่างลง เพราะเขาอยากมาพิสูจน์ตัวเอง รวมถึงอยากจะเห็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้เห็นในสเปน เช่น ความสัมพันธ์ที่มีกับแฟนบอล และแฟนบอลเกี่ยวข้องกับการแข่งขันอย่างไร เป็นต้น
      อย่างไรก็ตามหาก “เดอะ กันเนอร์ส” อยากได้เขามาเป็นนายใหญ่จริงๆ พวกเขาก็ต้องแข่งกับ เชลซี อย่างหนัก เพราะมีรายงานระบุว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” กาหัวอดีตดาวเตะทีมชาติสเปนเป็นเป้าหมายเบอร์ 1 สำหรับตำแหน่งกุนซือคนใหม่ของทีมเช่นกัน

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
     ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือรายนี้คือคนที่เกือบพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ในฤดูกาล 2013-14 แต่สุดท้ายต้องอกหักด้วยการถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี แซงคว้าแชมป์แบบน่าเจ็บใจ และถูกทีม “หงส์แดง” ปลดจากตำแหน่งเมื่อปี 2015 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเทรนเนอร์ชาวไอร์แลนด์เหนือ กลับมาสร้างชื่ออีกครั้งจากการคุม กลาวโกว์ เซลติก หลังพาทีมคว้าแชมป์ไปแล้ว ถึง 4 รายการในระยะเวลาไม่ถึง 2 ซีซั่น
     โดยสไตล์การทำทีมของ ร็อดเจอร์ส นั้นเหมาะกับ อาร์เซนอล เป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาเป็นกุนซือที่เน้นให้นักเตะเคลื่อนที่ตลอดเวลา และเน้นการเพรสซิงเร็วตั้งแต่แดนคู่แข่งจนทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
     ถึงกระนั้นสิ่งที่ถือเป็นจุดอ่อนของกุนซือวัย 45 ปีรายนี้ คือ เกมรับ เนื่องจากแผนของเขาคือการให้นักเตะและลูกบอลเคลื่อนที่ตลอดเวลา ก็จะ ทำให้นักเตะสับสนในตำแหน่งกันได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องพิสูจน์กันอีกครั้งหากได้กลับมาคุมทีมในแดนผู้ดี

มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี
     สำหรับ อัลเลกรี ได้รับคำชื่นชมอย่างมากตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เจ้าตัวเข้ามาคุมทีม ยูเวนตุส แม้ก่อนหน้านี้แฟนๆของทีม “ม้าลาย” จะไม่อยากได้เขาเข้ามาคุมทีมก็ตาม เนื่องจากเจ้าตัวพาทีมคว้า “ดับเบิลแชมป์” ได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก ทั้ง กัลโช่ เซเรีย อา และโคปปา อิตาเลีย เช่นเดียวกับปีต่อมาที่เขาพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์อีกครั้ง และนับเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังมะกะโรนีที่คว้า 2 ถ้วยในประเทศได้สองปีซ้อน
     เทรนเนอร์วัย 50 ปี มีจุดเด่นเรื่องการปั้นนักเตะเพราะเขาสามารถดึงศักยภาพของ ปอล ป็อกบา และ เปาโล ดิบาลา จนกลายเป็นนักเตะระดับโลกในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องแท็คติกที่เขาจะเน้นทุกนาทีในสนาม และไม่เคยประมาทคู่แข่งแม้จะเป็นทีมที่อ่อนชั้นกว่าก็ตาม ซึ่ง อาร์เซนอล ยังขาดความเขี้ยวตรงนี้อยู่
     ทำให้อดีตเทรนเนอร์ เอซี มิลาน ถือเป็นอีก 1 แคนดิเดตที่น่าสนใจ และน่าจะถึงเวลาของเฮดโค้ชชาวอิตาเลียนรายนี้แล้วเช่นกันในการออกไปคุมทีมนอกประเทศบ้านเกิด

     สุดท้ายแล้วต้องมาดูกันว่าตำแหน่งเฮดโค้ชคนใหม่ของ อาร์เซนอล ที่จะสืบทอดความยิ่งใหญ่ของ อาร์แซน เวนเกอร์จะเป็นใคร และเจ้าตัวจะพาทีม “ปืนใหญ่” กลับไปสู่ความสำเร็จแบบที่ควรจะเป็นได้อีกครั้งหรือไม่