สอบเพิ่ม '5พระผู้ใหญ่' เอี่ยว 'ทุจริตเงินปริยัติธรรม'

สอบเพิ่ม '5พระผู้ใหญ่' เอี่ยว 'ทุจริตเงินปริยัติธรรม'

"ป.ป.ช." เผยกำลังสอบเพิ่ม "5พระผู้ใหญ่" เอี่ยว "ทุจริตเงินปริยัติธรรม" หลังได้รับสำนวนจาก "ปปป." แย้มบางอย่างใช้หลักฐานเดิมได้

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสำนวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งมีพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้อง 5 รูป

โดยประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะข้อมูลในสำนวนที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งมานั้นยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีเวลารวมรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพียง 30 วัน ซึ่งทาง ป.ป.ช.เห็นว่ายังไม่ชัดเจนก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

พล.ต.อ. วัชรพล กล่าวอีกว่า โดยตามระเบียบของ ป.ป.ช.จะมีกรอบเวลาในการแสวงหาข้อมูล 6 เดือน หากยังทำไม่เสร็จเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสำนวนจะขอขยายเวลาได้อีก 3 เดือน หากยังทำไม่เสร็จก็จะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอขยายเวลาอีก 3 เดือน

"แต่หลังจาก 1 ปี หากรวบรวมพยานหลักฐานไม่เสร็จก็จะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อให้คณะกรรมการลงไปดำเนินการ ทั้งนี้คิดว่าหากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จเร็วเจ้าหน้าที่ก็คงจะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา คงไม่ชักช้า ส่วนทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลเต็มกรอบเวลาหรือไม่นั้น จะต้องรอดูพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้อมูลทางการเงิน เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเราต้องรอบคอบเพราะคดีดังกล่าวเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ "

       

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องเชิญ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของผู้รับผิดชอบ อาจจะเป็นการขอข้อมูลไป หรือเป็นการสอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ส่วนจะสามารถใช้หลักฐานเดิมจากคดีเงินทอนวัดที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้มาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานนั้นๆ บางอย่างก็สามารถใช้พยานหลักฐานเดิมได้