ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น9เซนต์หลังดิ่งกว่า1%

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น9เซนต์หลังดิ่งกว่า1%

ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าวหลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นกว่า 1% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะมีแนวโน้มแตะระดับ 70 ดอลลาร์ โดยที่มีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียต้องการผลักดันราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นถึงระดับ 80-100 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (20เม.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น  ปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 68.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลงไปกว่า 1% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาโจมตีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ดันราคาน้ำมันขึ้นในระยะนี้ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 74.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มได้เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้วจนถึงปลายปีนี้ เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด และมีกำหนดประชุมกันในเดือนมิ.ย. เพื่อทบทวนแผนการปรับลดกำลังการผลิต

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความ วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มประเทศโอเปกที่ดันราคาน้ำมันขึ้น โดยระบุว่า “ดูเหมือนโอเปกจะเอาอีกแล้ว แม้ว่าจะมีปริมาณน้ำมันมากมายในทุกที่ ซึ่งรวมถึงในเรือกักเก็บน้ำมันในทะเล แต่โอเปกก็ได้สร้างราคาเทียมของน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างมาก นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดี และยอมรับไม่ได้”

ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสพุ่งแตะระดับ 69.56 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 1%

ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ โดยเพิ่มขึ้น 25% นับตั้งแต่กลางปี 2559  เป็น 10.54 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกตามหลังรัสเซีย ซึ่งผลิตน้ำมันเกือบ 11 ล้านบาร์เรล/วัน