‘กฤษฎา’ สั่งรับมือสินค้าเกษตรตกต่ำ

‘กฤษฎา’ สั่งรับมือสินค้าเกษตรตกต่ำ

รมว.เกษตรสั่งประสานพาณิชย์รับมือลำไยออกกระจุกตัว ก.ค.- ส.ค. นี้ เร่งกระจายสู่ผู้บริโภคโดยเร็วลดการเน่าเสีย พร้อมจับตา ยาง-หมู-สับปะรด ราคาร่วงต่ำกว่าทุน

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า เพื่อรับมือปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรฯประสานกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อจับตาดูผลผลิตที่ต้องเฝ้าระวัง 6 สินค้าคือ ลำไย ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 สับปะรดโรงงาน สุกรน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ไข่ไก่สดเบอร์ 3 และ ไก่รุ่นพันธุ์เนื้อ เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและบางสินค้ากระจุกตัว ส่งผลให้เน่าเสีย ก่อนที่จะขนส่งไปถึงมือผู้บริโภค

ราคายางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ต้นทุนการผลิตอยู่ที่กิโลกรัม(กก.)ละ 46.77บาท ราคาขายทรงตัวอยู่ที่ 42.57 บาท สับปะรดโรงงาน ราคาต้นทุนอยู่ที่ กก.ละ 3.48 บาท ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ กก.ละ 3.22 บาท และ ราคาลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.83% เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น โรงงานแปรรูปจึงปรับราคารับซื้อลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนสุกรน้ำหนักเกิน 100 กก. ต้นทุนอยูที่กก.ละ 63.36 บาท ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 50.38 บาท แต่แนวโน้มราคาที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.34% เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์และมีวันหยุดหลายวันภาวะตลาดสุกรค่อนข้างคึกคักและคล่องตัวส่งผลให้ความต้องการบริโภคที่มีมากขึ้น

และ ไก่รุ่นพันธุ์เนื้อ ต้นทุนอยู่ที่ 32. 25บาทต่อกก. โดยราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 34.58 บาทต่อกก. ซึ่งราคาไก่รุ่นพันธุ์เนื้อสูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ผ่านมา 1.50% เนื่องจากมีวันหยุดหลายวัน ส่งผลให้ความต้องการบริโภคมากขึ้น ส่วนราคามันสำปะหลัง ต้นทุนอยู่ที่ 1.71 บาทต่อกก. ราคาที่เกษตรกรขายได้ 2.49 บาทต่อกก. โดยราคามันสำปะหลังสูงขึ้น 1.63% จากสัปดห์ก่อนหน้า เนื่องจากผลิตออกสู่ตลาดมาก แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการมันสำปะหลัง ประกอบกับราคาส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

“สินค้าการเกษตรปีนี้ คาดว่าผลผลิตจะดีขึ้น เช่น ข้าว ลำไย ซึ่งมีความกังวลว่าจะเกิดปัญหาเกินควมต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นกระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์ วางแผนกระจายสินค้าเกษตรที่จะออกสู่ตลาดพร้อมกันในช่วงประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค.ให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว”