'สุรชัย' ชี้เริ่มสรรหากสทช.ชุดใหม่ทันที

'สุรชัย' ชี้เริ่มสรรหากสทช.ชุดใหม่ทันที

"สุรชัย" ชี้เริ่มสรรหากสทช.ชุดใหม่ทันที ตั้งกก.สอบคลิปเสียงหลุด "นายกฯ ไม่ปลื้ม" โวสนช.ยึดประโยชน์สังคมเป็นหลัก

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสนช.มีมติไม่เลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้ง 14 คน ว่า จากนี้ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ตามกฎหมายได้ทันที แต่ไม่แน่ใจว่าทั้ง 14 คนดังกล่าวจะสามารถสมัครใหม่ได้หรือไม่ เพราะสนช.มีมติไม่เลือกตามบัญชีทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาพิจารณา

นายสุรชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ ตามมาตรา 17 ระบุให้สภาเป็นผู้พิจารณาเลือกซึ่งบางคนตีความตามตัวอักษรว่าเมื่อคณะกรรมการส่งรายชื่อมา สนช.มีหน้าที่เลือกอย่างเดียว ซึ่งอาจเกิดความไม่เป็นธรรม และเป็นช่องโหว่ที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือบล็อกคนได้ว่าเขาสรรหามาอย่างไรก็ต้องเลือกแบบนั้น เรื่องนี้จึงต้องระมัดระวังในการตีความกฎหมาย ซึ่งทางสนช.พยายามให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ทั้งนี้ เสียดายที่ไม่สามารถนำข้อมูลในที่ประชุมลับของคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกสทช. เสนอรายงานต่อที่ประชุมมาเผยแพร่ต่อสาธารณะได้ แต่สมาชิกได้ฟังข้อมูลแล้วมีข้อวิตกกังวล ซึ่งส่วนหนึ่งเห็นตรงกันและวิตกกังวลว่าเลือกไปอาจเกิดปัญหาในอนาคต และนำสู่การฟ้องร้อง ดังนั้น ยืนยันว่าสิ่งที่สนช.ตัดสินใจไปอยู่บนพื้นฐานที่ต้องการสร้างความถูกต้องในการจะได้คนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจริงๆทางด้านวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคม มาทำหน้าที่กสทช. เราไม่ต้องการให้เป็นบรรทัดฐานนำมาตรา 17 ไปใช้ในช่องทางที่ไม่ถูกต้องต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการบล็อกตัวบุคคลมาแล้วบังคับให้สภาฯต้องเลือก   

             \'สุรชัย\' ชี้เริ่มสรรหากสทช.ชุดใหม่ทันที       

เมื่อถามถึงคลิปเสียงหลุดโดยระบุนายกรัฐมนตรีไม่พอใจกับบัญชีรายชื่อกสทช. ทั้ง 14 คน นายสุรชัย ชี้แจงว่า ในประเด็นดังกล่าวมีการพูดในที่ประชุมสนช. เมื่อวันที่ 19 เม.ย.เช่นกัน แต่ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ใช่คลิปเสียงในที่ประชุมวิปสนช. เนื่องจากตัวเองก็อยู่ในที่ประชุมวิปสนช.เมื่อวันที่ 18 เม.ย.เหมือนกัน แต่ไม่มีการพูดเรื่องดังกล่าวแต่ประการใด ดังนั้น ได้หารือกับประธานสนช. เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป เพราะยังไม่ทราบว่าคลิปดังกล่าวจริงหรือไม่จริง และมาจากการประชุมห้องใด


เมื่อถามว่าการที่สนช.มีมติไม่เลือกกสทช. โดยอ้างถึงการขาดคุณสมบัติของผู้ผ่านการสรรหาบางคน จะทำให้สนช.มีอำนาจในการวินิจฉัยคุณสมบัติของบุคคลหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า สนข.ไม่ได้มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติบุคคล  แต่มองว่ามีประเด็นเรื่องคุณสมบัติอาจทำให้การเสนอบัญชีรายชื่อจำนวน 2 เท่า ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะจะมีผู้สมัครบางคนที่ผ่านและไม่ผ่านคุณสมบัติเข้ามาให้สนช.เลือก ซึ่งจะเป็นปัญหาในอนาคต ดังนั้น แม้กฎหมายจะไม่บอกให้สนช.มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติบุคคล แต่เมื่อมีข้อมูลเข้ามา ถ้าสนช.ไม่สนใจและเดินหน้าเลือกกสทช. ก็จะเป็นปัญหาได้อีก หรือถ้าในอนาคตศาลวินิจฉัย สนช.อาจถูกมองว่าทำไมเมื่อเห็นปัญหาแล้วไม่แก้ไข แล้วจะมีกระแสว่าสนช.ต้องรับผิดชอบ ดังนั้น สนช.จึงจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาก่อน เพราะดูแล้วผู้ที่ผ่านการสรรหาทุกด้านตามที่คณะกรรมการตรวจสอบประวัติฯ รายงานนั้นมีปัญหา ดังนั้น สนช.ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพราะเป็นด่านสุดท้ายในการรองรับคนเข้าสู่ตำแหน่งที่จะทำหน้าที่ดูแลกิจการสำคัญของประเทศ


เมื่อถามต่อว่าคลิปเสียงที่ออกมาอาจถูกครหาว่านายกรัฐมนตรีครอบงำการลงมติของสนช.หรือไม่ นายสุรชัย ชี้แจงว่า สุดที่จะมอง แต่การทำงานของสนช.ตัดสินใจบนพื้นฐานประโยชน์ของสังคมและสาธารณะโดยรวม ไม่ใช่ตัดสินใจบนความชอบหรือไม่ชอบ และขอให้ดูกรณีอื่นๆที่สนช.ลงมติด้วย พร้อมยืนยันว่าสนช.เป็นอิสระและไม่ได้ครอบงำจากฝ่ายใด