'จาตุรนต์' เชื่อ 'ประยุทธ์' กว้านตัวนักการเมือง หวังหนุนชื่อนายกฯ
"จาตุรนต์" เชื่อ "ประยุทธ์" กว้านตัวนักการเมือง เพื่อหวังแรงหนุนให้พรรคเสนอชื่อนายกฯ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อปรากฎการณ์ที่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดึงแกนนำพรรคการเมืองเข้าไปมีส่วนร่วมทางการบริหาร ว่า เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความพยายามสืบทอดอำนาจของ คสช. ต่อไปภายหลังจากการเลือกตั้ง
โดยใช้ทุกวิธีทาง ทั้งการบีบพรรคการเมือง , ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง, ทำลายพรรคการเมืองให้อ่อนแอ ซึ่งตนประเมินได้จากสิ่งที่เกิดขึ้น คือ เป็นความพยายามปูทางให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ผ่านการสนับสนุนจากพรรคการเมือง ที่มีสิทธิ์ส่งบัญชีนายกฯ ที่พรรคการเมืองจะสนับสนุน
นายจาตุรนต์ กล่าวโดยเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายกฯด้วยวิธีที่ให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯ ตามบัญชีของพรรคซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนด เพราะเป็นวิธีที่จะกลับเข้าสู่อำนาจได้ง่ายกว่า เพราะใช้เสียงสนับสุนนจากรัฐสภาเพียงเสียงข้างมาก เกินกึ่งหนึ่ง ของเสียงทั้งสิ้น 750 เสียง เท่ากับ ใช้เสียง ส.ว. 250 เสียง
เสียงจาก ส.ส. เพียง 126 เสียง เท่านั้นซึ่งง่ายกว่าจะใช้ระบบที่มาโดยนายกฯที่อยู่นอกบัญชีของพรรคการเมือง ที่ต้องใช้การลงมติ ด้วยเสียงข้างมาก เกิน 2 ใน 3 ของสมาชิกทั้งรัฐสภา คือ 500 เสียงจึงจะยกเว้นการใช้บัญชีนายกฯของพรรคการเมืองและนำไปสู่การโหวตเลือกนายกฯคนนอก
"วิธีนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมืองดูจะเป็นทางที่ง่ายกว่า ดังนั้นเขาจึงต้องใช้ความพยายามทุกหนทางเพื่อให้พรรคการเมืองร่วมมือ และได้เสียงมากพอที่จะได้กลับมาเป็นนายกฯ และนอกจากจะหาเสียงสนับสนุนให้ได้ 126 เสียงจากส.ส.แล้ว เขาต้องหาเสียงส.ส.ที่เกิน 251 เสียงเพื่อเพียงพอที่จะทำงานในระบบสภาฯ ได้ราบรื่น ซึ่งวิธีที่เขากำลังทำถือเป็นเรื่องน่าละอาย" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่าจากปรากฎการณ์ที่ คสช. ดำเนินการตนมีความกังวลว่าจะเป็นการกระทำที่ทำลายระบบนักการเมืองและพรรคการเมือง ไม่เป็นผลดีต่อประชาชนและไม่เกิดประโยชน์ก้บประเทศ ตนไม่ขอฝากเตือนหรือชี้แนะใด ๆ เพราะเชื่อว่า คสช. คงไม่ยอมรับฟัง ในขณะเดียวกันการอยู่ในตำแหน่งบริหารและใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการทุกวิถีทาง แม้จะสุ่มเสี่ยงที่จะขัดกับกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ แต่การดำเนินเอาผิดคสช. ถือเป็นเรื่องยาก