หุ้นเทคโนฯร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

หุ้นเทคโนฯร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สะท้อนถึงการขยายตัวของการจ้างงาน และตลาดแรงงานที่ตึงตัว ขณะที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจากค่าจ้างในระบบเศรษฐกิจ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (19เม.ย.)ปรับตัวร่วงลง เพราะผลกระทบจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นบริษัทแอ๊ปเปิ้ล นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ และจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง  83.18  จุดหรือ 0.34% ปิดที่ 24,664.89 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 15.51 จุดหรือ 0.57% ปิดที่ 2,693.13  จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 57.18 จุดหรือ 0.78% ปิดที่ 7,238.06 จุด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแอ๊ปเปิ้ลร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก โดยราคาหุ้นแอ๊ปเปิล ซึ่งเป็น 1 ในหุ้น 30 ตัวของดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลงเกือบ 2% หลังจากที่บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (ทีเอสเอ็มซี) เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ระบุไว้

ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.90% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีทะยานขึ้นเหนือระดับ 3.0% หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าคาด โดยเมื่อเวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.91% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.101%