สศค.คาด GDP ไทยปี 61 โต 4.2%

สศค.คาด GDP ไทยปี 61 โต 4.2%

สศค.คาด GDP ไทยปี 61 โต 4.2% ขยายตัวเต็มศักภาพ โวเป็นอัตราการเพิ่มที่เร็วกว่าประเทศต่างๆ

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษก สศค.ชี้แจงว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับต่อเนื่องตลอด 3-4 ปี จาก 1.0% ในปี 2557 ขึ้นมาเป็น 3.0% 3.3% และ 3.9% ในปี 2558 2559 และ 2560 ตามลำดับ และคาดว่า ในปี 2561 จะขยายตัวได้ 4.2% ต่อปี เป็นการขยายตัวในระดับเต็มศักยภาพ (Potential GDP Growth) โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ขณะที่การบริโภคและการลงทุนโดยรวมยังสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดี

ดังนั้น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากที่ขยายตัวเพียง 1.0% ต่อปี มาขยายตัวได้ที่ 3.9% ต่อปี ภายในระยะเวลา 3 ปี ถือเป็นอัตราการเพิ่มที่เร็วกว่าประเทศต่าง ๆ  (เวียดนามจาก 6.0% ในปี 2557 เพิ่มขึ้นเป็น 6.8% ต่อปี ในปี 2560, ลาวจาก 7.6% ในปี 2557 ลดลงเป็น 6.8% ต่อปี ในปี 2560, กัมพูชาจาก 7.1% ในปี 2557 ลดลงเป็น 7.0% ต่อปี ในปี 2560 และมาเลเซียจาก 6.0% ในปี 2557 ลดลงเป็น 5.9% ต่อปี ในปี 2560)


โฆษก สศค.กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้วางรากฐานระยะปานกลางและระยะยาวให้แก่เศรษฐกิจ เพื่อสร้างโอกาสและความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น โครงการลงทุนใน EEC โดยการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อให้เป็นฐานที่ตั้งสำคัญของการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งใช้เงินลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ในระยะ 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้เป็น New Engine of Growth ของเศรษฐกิจไทยและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โครงการ National e-Payment เพื่ออำนวยความสะดวกในการการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกใน Asia ที่ริเริ่มโครงการในลักษณะนี้ สนับสนุน FinTech และส่งเสริมการใช้ QR Code

นอกจากนี้ รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะกระจายโอกาสไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ผ่านโครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่งและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดรองมีงานทำและมีรายได้มากขึ้น ตลอดจนดูแลผู้มีรายได้น้อย 11.4 ล้านคน ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยให้มีทักษะอาชีพเพิ่มขึ้น มีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถเข้าถึงปัจจัย 4 ได้อย่างยั่งยืน

"การดำเนินนโยบายของรัฐบาลมิได้มุ่งหวังเฉพาะการเติบโตเชิงปริมาณแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องการให้คุณภาพของเศรษฐกิจและประชาชนดีขึ้นด้วย สอดคล้องกับธนาคารโลกและเอดีบีที่ระบุว่าโอกาสของการขยายตัวทางเศรษฐกิจคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนา EEC นอกจากนี้อันดับของ Ease of Doing Business ที่ดีขึ้นถือเป็นปัจจัยบวกต่อความเชื่อมั่นในอนาคต" นายพรชัย กล่าว