“อาเบะ-ทรัมป์”ไฟเขียวเจรจาการค้ารอบใหม่

“อาเบะ-ทรัมป์”ไฟเขียวเจรจาการค้ารอบใหม่

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เห็นพ้องเริ่มการเจรจาในประเด็นการค้าและการลงทุนรอบใหม่ โดยผู้นำสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐอาจจะยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่น หากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงการค้ารอบใหม่

ในโอกาสนี้ สหรัฐแสดงความไม่มั่นใจว่าจะหวนกลับมาเจรจาประเด็นข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) โดยปธน.ทรัมป์ ได้เน้นย้ำว่าต้องการทำข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีกับญี่ปุ่นมากกว่าที่จะทำข้อตกลง ทีพีพี ซึ่งเป็นข้อตกลงพหุภาคี พร้อมระบุว่า สหรัฐขาดดุลการค้าแก่ญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่ามหาศาล

การประชุมสุดยอดระหว่างนายอาเบะและทรัมป์มีขึ้น หลังปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม โดยได้มีการยกเว้นภาษีให้กับพันธมิตรรายใหญ่ของสหรัฐ เช่น ออสเตรเลียและเกาหลีใต้ แต่ไม่มีญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ นายอาเบะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะเดินหน้าเจรจากับสหรัฐต่อไป เพื่อให้สินค้าของญี่ปุ่นได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีเพิ่มเติม เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล็กของญี่ปุ่นมีบทบาทต่อการจ้างงานในสหรัฐ แต่ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะไม่ยกเว้นการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากญี่ปุ่น เว้นแต่ว่าทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงการค้ารอบใหม่ที่สหรัฐเห็นชอบด้วย

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ระบุว่า เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา สหรัฐขาดดุลการค้าสินค้ากับญี่ปุ่นราว 6.885 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือว่ามากสุดเป็นอันดับสามเมื่อเทียบกับประเทศที่สหรัฐขาดดุลการค้าด้วย

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้แถลงข่าวร่วมกันภายหลังการพบปะเป็นเวลา 2 วันที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดาว่า การเจรจาที่ว่านี้จะนำโดยนายโทชิมิตสึ โมเทกิ รัฐมนตรีที่ดูแลนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่น และนายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ

นายอาเบะ ได้ให้คำมั่นขณะสรุปการประชุมสุดยอด ที่รีสอร์ทมาร์-อา-ลาโก ของทรัมป์ว่า ญี่ปุ่นจะยกระดับการค้าและการลงทุนกับสหรัฐในรูปแบบที่ให้ประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ทั้งยังเห็นด้วยกับปธน.ทรัมป์ ในการเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าที่เสรี ยุติธรรม และเอื้อประโยชน์ต่อกัน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกในลักษณะที่มีระเบียบชัดเจน มีความเป็นเสรี และเปิดกว้าง