หุ้นไอบีเอ็มร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

หุ้นไอบีเอ็มร่วงฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันพุธ (18เม.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ในแดนลบ เพราะถูกกดดันจากราคาหุ้นไอบีเอ็มที่ร่วงลง ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พีและแนสแด็ก ปิดแดนบวก

บริษัทประมาณ 74% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว มีตัวเลขกำไรสูงกว่าที่คาดไว้ ขณะที่จำนวน 79% รายงานยอดขายสูงกว่าคาด

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 38.56 จุดหรือ 0.16% ปิดที่ 24,748.07 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ขยับขึ้น 2.25  จุดหรือ 0.08% ปิดที่ 2,708.64 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 14.14 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 7,295.24 จุด

หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (ไอบีเอ็ม) ร่วงลงอย่างหนักถึง 7.5% และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด หลังจากผู้บริหารของบริษัทแสดงมุมมองที่ค่อนข้างเป็นลบต่อแนวโน้มธุรกิจ

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก ส่วนราคาหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังจากที่ทางธนาคารเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากรายได้จากการซื้อขายหุ้น ตราสารหนี้  สินค้าโภคภัณฑ์ และปริวรรตเงินตรา

ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยว่า กำไรอยู่ที่ระดับ 1.45 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ดอลลาร์/หุ้น และธนาคารมีรายได้ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0363 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้จากการซื้อขายหุ้น 2.6 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.24 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้, สินค้าโภคภัณฑ์ และปริวรรตเงินตรา 1.9 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.67 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่ราคาหุ้นของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากที่ทางสายการบินเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 1 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยกำไรอยู่ที่ 50 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 40 เซนต์/หุ้น

นอกจากนี้ สายการบินมีรายได้ 9.032 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน