ผบช.น.สั่งสอบ 'ดต.จราจร' ให้ผู้ต้องหาคดีเมาแล้วซิ่ง ขับรถไปที่โรงพัก
ผบช.น. สั่งสอบ "ดต.จราจร" บกจร. หลังปล่อยให้ผู้ต้องหาลูกนักธุรกิจชาวพม่า คดีเมาแล้วซิ่ง ขับรถไปที่โรงพัก
จากกรณี ด.ต.พิทักษ์ วรมูล ผบ.หมู่งานจราจร งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร. ถูกนายลาร์ลี่ ซอว์ อายุ 29 ปี ลูกชายนักธุรกิจไฮโซชาวพม่า ทำร้ายร่างกาย ขณะนำตัวผู้ต้องหาไปส่งที่ สน.ทองหล่อ ในคดีเมาแล้วขับ ซึ่งระหว่างทางผู้ต้องหาขับรถออกนอกเส้นทาง และลงมือทำร้ายร่างกาย ทำให้ ด.ต.พิทักษ์ ต้องหนีออกมาจากรถของนายลาร์ลี่ เหตุเกิดช่วงเช้ามืด ของวันที่ 15 เม.ย. บริเวณใต้ทางด่วนพระราม 4
เหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.จร. ตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ใกล้แยกกล้วยน้ำไท ถนนพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย โดยนายลาร์ลี่ ได้ขับรถสปอร์ต ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว. สีขาว เปิดประทุน โดยมีเพื่อนชายและหญิง 2 คน โดยสารมาด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายลาร์ลี่ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 114 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกจับกุม โดยให้ ด.ต.พิทักษ์ ขึ้นรถไปกับผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปส่ง สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดี แต่ระหว่างทางผู้ต้องหาขับรถออกนอกเส้นทาง โดยด.ต.พิทักษ์ อ้างว่า โดนข่มขู่และถูกทำร้ายร่ายกาย จนต้องหนีเอาตัวรอดออกมาจากรถ จนมีคลิปเผยแพร่โด่งดังในโลกออน์ไลน์ กระทั่งนายลาร์ลี่ ได้เข้ามอบตัวที่ สน.ทองหล่อ และพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ เมาแล้วขับ ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และทำลายเอกสารพยานหลักฐานทางราชการ เนื่องจากแย่งบันทึกจับกุมข้อหาเมาแล้วขับ และใบตรวจแอลกอฮอล์ไปฉีกทำลายทิ้ง ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 เม.ย. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้สั่งการให้ ด.ต.พิทักษ์ เขียนรายงานชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยละเอียดแล้ว ทั้งนี้ การปล่อยตัวผู้ต้องหาขับรถโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมไปก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด.ต.พิทักษ์ กรณีที่ปล่อยปละให้ผู้ต้องหาขับรถไปที่ สน. โดยให้ ผบก.จร. เป็นผู้ดำเนินการ เพราะว่า นายลาร์ลี่ ถูกจับคดีเมาแล้วขับต้องไม่ให้ขับรถ โดยต้องเรียก ด.ต.พิทักษ์ มาสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย
ส่วนกรณีที่ให้นายลาร์ลี่ ขับรถไปโรงพักนั้น ผบก.จร. รายงานเหตุเบื้องต้นว่า เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตบีเอ็มดับบลิว ซีรี่ 7 ตำรวจลองขับแล้วไม่สามารถขับไปที่ สน.ได้ จึงให้ผู้ต้องหาขับไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ด.ต.พิทักษ์ กลัวอะไรถึงต้องหนีลงจากรถ พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ตามรายงานแจ้งว่า ถูกผู้ต้องหาข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย และผู้ต้องหาขับรถออกนอกเส้นทางไม่ไป สน. จึงกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนี
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าพาผู้ต้องหาออกไปจากด่าน เพื่อไปเจรจาต่อรองกัน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากลงบันทึกจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งต้องขอตรวจสอบผู้บังคับบัญชาหัวหน้าด่านด้วยว่า ได้สั่งการอย่างไรบ้าง โดยมีระยะกำหนดเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง 15 วัน ด้านคดี ด.ต.พิทักษ์ แจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ โดยนายลาร์ลี่ ได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
“ด่านตรวจแอลกอฮอล์ บก.จร. ทราบว่า มี ร.ต.อ.เป็นหัวหน้า ต้องตรวจสอบด้วยว่ามีรถควบคุมผู้ต้องหาหรือไม่ เพราะตามยุทธวิธี ต้องจอดรถไว้ในที่เกิดเหตุ แล้วตามญาติมานำรถไป หรือยกรถไปที่ สน.ก็ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ต้องหาเมาสุรากระทำความผิดซ้ำ ขับรถไปที่โรงพัก” ผบช.น. กล่าว