วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 เม.ย.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 เม.ย.61)

สหรัฐขู่คว่ำบาตรอิหร่าน ส่งผลราคาน้ำมันดิบพุ่ง

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อ หลังนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวขึ้น หลังสหรัฐมีแนวโน้มที่จะคว่ำบาตรประทศอิหร่านอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศ

+/- เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สหรัฐ ฝรั่งเศสและอังกฤษสั่งยิงขีปนาวุธจำนวน 105 ลูก ไปยังประเทศซีเรียโดยกล่าวอ้างถึงแหล่งผลิตอาวุธเคมีสามแห่งที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดก๊าซพิษที่เมือง Douma ในประเทศซีเรียเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ซึ่งคร่าชีวิตคนไปนับสิบ อย่างไรก็ตาม ความกังวลได้คลายลงไปบ้างหลังสหรัฐ สั่งหยุดยิงขีปนาวุธชั่วคราวเพื่อรอดูท่าทีของซีเรีย

- นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดกำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจส่งผลต่อแง่ลบต่อควมพยายามลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปค (OPEC) และนอกโอเปค (Non-OPEC) บางประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาดูการรายงายตัวเลขจากสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) โดยคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 650,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ค่อนข้างซบเซา ในขณะที่อุปทานในเอเชียเพิ่มจากการส่งออกน้ำมันเบนซินของประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียโดยภาพรวมยังคงอ่อนตัว ในขณะที่อุปทานยังอยู่ในระดับที่มากกว่าอุปสงค์ แม้ว่าอุปทานบางส่วนจะหายไปจากตลาดในช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

          ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 69-74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

          ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 64-69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • ความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปคยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคในเดือน มี.ค. ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน โดยการปรับลดหลักๆ มาจากการแองโกลา ลิเบีย และเวเนซุเอลา
  • EIA คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐ ในปี 2562 จะปรับเพิ่มขึ้น 7.5 แสนบาร์เรลต่อวันจากปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 11.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐ แซงหน้ารัสเซียและซาอุดิอาระเบีย กลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก โดยการปรับเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากปริมาณการน้ำมันดิบจากหินชั้นดินดาน (Shale Oil) โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแหล่งการผลิต Permian

------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999