โพลล์ชี้ชาวอังกฤษคัดค้านโจมตีซีเรีย

โพลล์ชี้ชาวอังกฤษคัดค้านโจมตีซีเรีย

ผลสำรวจความคิดเห็นในอังกฤษบ่งชี้ว่า มีชาวอังกฤษเพียง 20% ที่สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลในการเข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีซีเรียเพื่อลงโทษกรณีใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน

ผลสำรวจความคิดเห็นแรกในอังกฤษ ที่จัดทำโดยเซอร์เวชัน โพลล์ หลังอังกฤษจับมือกับสหรัฐและฝรั่งเศสยิงขีปนาวุธรวมกันกว่าร้อยลูกถล่มซีเรีย พบว่า ผู้ตอบคำถามกว่า 30% เห็นว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียโดยไม่ขอมติจากรัฐสภาเป็นเรื่องผิด และ 60% บอกว่า ไม่ควรมีการยิงขีปนาวุธโจมตีอีก เว้นแต่จะได้รับเสียงสนับสนุนจากสภา ขณะที่มีเพียง 20% ที่เห็นด้วยกับเมย์

นอกจากนี้  ผลสำรวจจัดทำโดย บีเอ็มจี รีเสิร์ช สำหรับหนังสือพิมพ์ ดิ อินดิเพนเดนท์ของอังกฤษ ที่จัดทำในช่วงหลายวันที่ผ่านมาขณะนายกรัฐมนตรีเมย์ส่งสัญญาณว่าจะใช้กำลังโจมตีซีเรียว่า มีเพียง 28% สนับสนุนการโจมตีในซีเรีย ขณะที่ 36% คัดค้าน อีก 26% ไม่คัดค้านแต่ก็ไม่สนับสนุน และ 11% ไม่มีความเห็น นอกจากนี้อีกเกือบ 47% สนับสนุนการกำหนดเขตห้ามบินเพื่อปกป้องพลเรือนซีเรียในสงครามกลางเมือง แต่ 11% คัดค้าน

ผลสำรวจเหล่านี้ อาจสร้างความยากลำบากให้นายกรัฐมนตรีเมย์ หากจะตัดสินใจร่วมการโจมตีซีเรียครั้งใหม่ กรณีที่มีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียอีกตามที่เธอได้ขู่ไว้ นอกจากนี้เธอจะต้องเผชิญการต่อสู้ในรัฐสภาอย่างหนัก เพราะพรรคฝ่ายค้านไม่พอใจอย่างมากที่เธอไม่ขอความเห็นจากสภาก่อน

ในความเป็นจริงแล้ว กฎหมายอังกฤษไม่ได้กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องขอมติจากสภาก่อนใช้กำลังทางทหาร แต่สภาควรได้โอกาสที่จะลงมติ ซึ่งสภาอยู่ระหว่างปิดประชุมและจะกลับเข้าทำงานในวันจันทร์ แต่เธอก็สามารถเรียกประชุมฉุกเฉินได้ ก่อนหน้านี้การตัดสินใจสมัยนายกรัฐมนตรีโทนี แบลรก์ที่ให้อังกฤษเข้าร่วมสงครามในอิรักในปี2546 ถูกสอบสวนในเวลาต่อมา และสรุปว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะอาศัยข้อมูลข่าวกรองที่ขาดหลักฐานสนับสนุนว่าอิรักมีอาวุธทำลายล้างสูง