เทศกาลดันท่องเที่ยวไตรมาส 2 รุ่ง

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกตลาดท่องเที่ยวในประเทศยังปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการประเมินของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวราว 32 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.8% สร้างรายได้สะพัดราว 2.47 แสนล้านบาท เติบโตกว่า 7.6%

สาเหตุที่ทำให้ขยายตัวต่อเนื่องเพราะบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายหลังจากผ่านช่วงไว้ทุกข์ในช่วงเดือนต.ค.ที่ส่งผลต่อไตรมาสที่ผ่านมารวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยคาดว่าจะมีการเติบโตราว 4.2-4.5% ในปีนี้เห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับมาอยู่ในระดับ 80 เป็นครั้งแรกหลังจากอยู่ในระดับต่ำตลอดปีที่ผ่านมา

สำหรับพื้นที่ๆดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ มีจำนวนกว่า 8.86 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 7.85 หมื่นล้านบาท ตามด้วยภาคกลาง 6.92 ล้านคน-ครั้งทำรายได้ราว 2.47 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.5% ส่วนภาคเหนือได้รับอานิสงส์จากอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องถึงปลายเดือนก.พ.ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเยือนกว่า 4.98 ล้านคน-ครั้งสร้างรายได้ 3.61 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น มาตรการภาษีสนับสนุนการเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยังเป็นปัจจัยส่งเสริมตลาดโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวให้คนเดินทางไปนอกแหล่งท่องเที่ยวหลักมากขึ้น เช่น การคาดการณ์ว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีนักท่องเที่ยวรวม 4.26 ล้านคน-ครั้งเติบโต 4.7% หรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศและสร้างรายได้ 2.19 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นราว 9.4% เป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตในเชิงรายได้มากที่สุดรองจากภาคใต้ที่สร้างรายได้ 5.93 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.6%

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยท้าทายคือค่าเงินบาทแข็งต่อเนื่อง ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นประกอบกับมีรายการคอนซูเมอร์แฟร์ส่งเสริมการขายทำโปรโมชั่นนำเสนอเส้นทางต่างประเทศที่คนไทยนิยมเช่นญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,ไต้หวันเป็นต้นในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

ด้านคาดการณ์ไตรมาส 2 ประเมินว่า เป็นช่วงเวลาที่คนไทยจะเดินทางมากขึ้นเพราะมีเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ 3 เดือนนี้มีนักท่องเที่ยวสูงถึง 39.6 ล้านคน-ครั้งเติบโต 3.8% มีการใช้จ่ายราว 2.42 แสนล้านบาทเติบโตกว่า 6.5% จากปีที่ผ่านมาโดยกรุงเทพฯ ยังคงมีนักท่องเที่ยวสูงสุด 9.9 ล้านคนเติบโต 2.9% คิดเป็นรายได้ราว 9.22 หมื่นล้านบาทแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 6.92 ล้านคนเติบโต 5.2% ทำรายได้ราว 1.96 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นกว่า 10.2% ปัจจัยที่เสริมการเดินทางในไตรมาสนี้ได้แก่เที่ยวบินภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะช่วงสงกรานต์เช่นกรุงเทพฯ-ขอนแก่นและกรุงเทพฯ-เชียงใหม่เป็นต้น

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมมาตรการเก็บภาษีนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางออกนอกประเทศทางเครื่องบินทั้งชาวต่างชาติและญี่ปุ่นคนละ 1,000 เยน เพื่อนำไปใช้ในเป็นทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงปรับปรุงหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพขึ้นมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อตลาดญี่ปุ่นเดินทางมาไทย เพราะอัตราจัดเก็บไม่สูงเกินไปไม่เป็นภาระสำหรับคนที่มีกำลังซื้อพอเดินทางไปต่างประเทศ เช่นเดียวกับคนไทยไปญี่ปุ่นไม่น่าจะมีผลเช่นกันเพราะคนที่ไปต่างประเทศส่วนใหญ่มีฐานะทางการเงินพอสมควรอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน มองว่าเป็นโมเดลที่น่าสนใจในแง่ที่สามารถนำเงินที่เก็บจากการเดินทางคืนกลับสู่นักท่องเที่ยวในรูปแบบของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการปรับปรุงอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง

สำหรับการผ่านกฎหมายดังกล่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นสื่อท้องถิ่น รายงานว่า จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.2562 เป็นต้นไป ซึ่งจะครอบคลุมการเดินทางออกจากญี่ปุ่นทั้งทางเรือและทางเครื่องบินโดยราคาจะบวกเพิ่มไปในค่าโดยสารทั้งนี้รัฐบาลประเมินว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้ 4.3 หมื่นล้านเยนหรือราว 1.25 หมื่นล้านบาท