แนะ '3 ไม่' เล่นน้ำสงกรานต์

แนะ '3 ไม่' เล่นน้ำสงกรานต์

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะวัยรุ่นเล่นน้ำช่วงสงกรานต์อย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย ด้วยหลัก "3 ไม่" ขจัดความเสี่ยงจากโรค และภัยสุขภาพจากการเล่นน้ำ

นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนหลายคนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นซึ่งมักจะออกไปเล่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยโรคที่พบได้บ่อยครั้งจากการเล่นน้ำสงกรานต์ ได้แก่ 1)โรคตาแดง 2)โรคผิวหนัง อาทิ ผดผื่น กลาก และเกลื้อน ฯลฯ 3)โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม และ 4)โรคลมแดด ซึ่งเกิดจากการตากแดดเป็นเวลานาน

นายแพทย์ภัทรพล กล่าวต่อว่า ดังนั้น เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงรับสิ่งดีๆในช่วงวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีไทย กรม สบส.ขอแนะหลัก "3 ไม่" ให้หนุ่ม-สาวได้นำไปใช้เพื่อการเล่นน้ำสงกรานต์ที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ดังนี้

1) ไม่สาด/ฉีดน้ำใส่บริเวณใบหน้าผู้อื่นโดยตรง ป้องกันการเกิดโรคตาแดง/อักเสบ
2) ไม่เล่นน้ำเป็นระยะเวลานาน เพราะการสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน ประกอบกับการเล่นติดต่อกันหลายวัน และพักผ่อนน้อยอาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ อาทิ โรคปอดอักเสบหรือปอดบวมได้ง่าย และประการสำคัญ 3)ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน หรือการทะเลาะวิวาทแล้ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วและออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักขึ้นอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ควรพกน้ำสะอาดไว้ติดตัวเสมอ เพื่อดื่มทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปจากอากาศที่ร้อนจัด และขณะเล่นน้ำหากถูกน้ำไม่สะอาดเข้าที่ดวงตาหรือบาดแผลก็ควรใช้น้ำสะอาดล้างบริเวณดังกล่าวเพื่อลดปริมาณเชื้อโรคให้มากที่สุด