มติปปง.ร้องศาลยึดทรัพย์ 7 ล้าน ตกเป็นของแผ่นดิน

พล.ต.ต.รมยสิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2561 ซึ่งมีมติให้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคําร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ประกอบด้วย คดีเกี่ยวกับการกระทําอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท ยงไทย จํากัด (มหาชน) หรือ “YCI” ส่งให้อัยการยื่นคําร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จํานวน 17 รายการ ประมาณ 4,100,000 บาท โดยคดีนี้สํานักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) พบพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า กลุ่มบุคคลจํานวน 8 ราย ได้ตกลงหรือรู้เห็นร่วมกันในการสร้างราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัท ยงไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 10-27 ก.ย. 56 รวม 14 วันทําการ อันเป็นผลทําให้สภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวผิดไปจากสภาพปกติของตลาด

นอกจากนี้คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้อัยการร้องต่อศาลเพื่อให้ทรัพย์สินในคดียาเสพติด 2 คดี ตกเป็นของแผ่นดิน จํานวน 11 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3,500,159 บาทได้แก่ คดีนายสัมฤทธิ์ ยะไวย์ กับพวก ซึ่งถูกจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า จํานวน 830,000 เม็ด และขยายผลไปถึงขบวนการว่าจ้างคนสัญชาติลาวให้ขนยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าในอ.หาดใหญ่จ.สงขลา และคดีนางเกศสุดา ศรีเป็ง กับพวก เครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายย่อยในจ.นราธิวาส

คดีเปิดเวปไซต์เล่นพนัน มีมติยึดทรัพย์นางสาวสรัน เสรเนท กับพวก จำนวน 175,905.56 บา ซึ่งเปิดเว็บไซต์การพนัน https://satangbet.com หรือ https://satanggame.comซึ่งเป็นหนึ่งใน 22 เว็บไซต์ ที่จัดให้มีการเล่นการพนัน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของน.ส. สรัน เสรเนท มากถึง 94,024,360.45 บาท ซึ่งขัดต่อข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ที่นางสาวสรัน เสรเนท ได้ให้ไว้กับธนาคารขณะที่ทําการเปิดบัญชี จึงเชื่อว่ายอดเงินดังกล่าวคือเงินลูกค้า ผู้เล่นการพนันที่โอนเข้ามาเพื่อเติมเครดิตในวงพนัน และจากการตรวจสอบ ข้อมูลการทําธุรกรรมพบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีดังกล่าวข้างต้นไปบัญชีอื่นอีก จํานวน 5 บัญชี 3. คดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน จํานวน 1 คดี ทรัพย์สินที่ส่งให้ยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคําร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จํานวน 2 รายการ ประมาณ 57,043.53 บาท คือ

คณะกรรมการธุรกรรมปปง. มีมติให้อายัดทรัพย์ในคดีหลอกให้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อขอรับพัสดุ โดยนางสาวรุ่งทิวาฯ ได้ติดต่อกับชาวต่างชาติใช้นามที่ติดต่อผ่านทางFacebook ชื่อมิสเตอร์แฟรงค์ และได้แจ้งให้น.ส.รุ่งทิวา ชาดิษฐ์ และนายสิทธิผล ศรีคุณแสง (ผู้เสียหาย) ว่าได้ส่งกระเป๋าของมีค่ามาให้ จากนั้นมีหญิงไทยติดต่อมายังผู้เสียหายว่ามีพัสดุส่งมาจากต่างประเทศให้ไปรับ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขนส่งพัสดุเป็นเงิน 36,000 บาท และแจ้งต่อไปว่าพัสดุได้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วแต่ไม่สามารถนําออกมาได้เพราะเครื่องเอ็กซเรย์ตรวจพบว่าในกระเป๋ามีเงินสดจํานวนมาก ซึ่งในการนํากระเป๋าออกมาต้องจ่ายค่าสินบนแก่เจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง เป็นจํานวนเงิน 150,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ การกระทําดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการการฉ้อโกงประชาชน ต่อมาได้มีการยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว จํานวน 2 รายการประมาณ 57,043.53 บาท