'ครูแขก' ยิ้มได้ ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดีครอบครองระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น
“ครูแขก” แนวร่วม นปช. ยิ้มได้ ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดีครอบครองระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น "ทนาย" เผยเตรียมฟ้องกลับ สตช.
ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อ.4237/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก อายุ 56 ปี ชาวเชียงใหม่ ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง และกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2590 มาตรา 4, 38,74 โดยอัยการโจทก์ ฟ้องพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่าง ต้นเดือน มิ.ย.53 – 5 ต.ค.53 จำเลยกับพวกซึ่งเป็นแนวร่วม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง มีเจตนาร่วมกันมีวัตถุระเบิด ประกอบด้วยวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง จำนวน 5 ลูก (ถัง) ที่ประกอบเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องโดยใช้วงจรตั้งเวลา 1 สัปดาห์ ประกอบกับวัตถุระเบิดแรงต่ำ (Low Explsive) ชนิดดินเทาและยูเรีย น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ซึ่งเป็นวัตถุระเบิดหลักบรรจุไว้ในถังดับเพลิง และถังน้ำยาแอร์ และมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครองครองได้ กับเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบด้วย ปืนเล็กกล (AK47) ขนาด 7.62 มม. RUSSIAN เลขประจำปืน 601098 จำนวน 1 กระบอก โดยมีเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวอีกจำนวน 129 นัด เหตุเกิดที่สมานเมตตาแมนชั่น ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี
ขณะที่คดีนี้ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 พ.ย.59 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ไม่มีพยานที่รู้เห็นขณะเกิดเหตุ และก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ได้เห็นจำเลยร่วมนำวัตถุระเบิดไปไว้ในห้องเกิดเหตุ พยานโจทก์ที่นำสืบมาจึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ ประกอบกับจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามโจทก์ฟ้อง
ซึ่งวันนี้ "น.ส.อัมพร" หรือครูแขก ที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้อง ได้เดินทางมาศาล พร้อมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทงั้นี้ "ศาลอุทธรณ์" ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นตามที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า พยานหลักฐานโจทก์ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษายืนยกฟ้อง ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น "น.ส.อัมพร" หรือครูแขก มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมเปิดเผยว่า จะไปทำบุญช่วงวันสงกรานต์ต่อไป และก่อนหน้านี้ในช่วงที่ถูกจำคุกนั้น หลังได้รับการปล่อยตัวกลับก็พบว่าทรัพย์สินในบ้านหลายชิ้นสูญหายไปด้วย
ขณะที่ "น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน" ทนายความของ น.ส.อัมพร เปิดเผยด้วยว่า คดีวันนี้เมื่อศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเหมือนกัน จะเข้าข่ายคดีต้องห้ามฎีกา โดยเตรียมจะฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กับพวกทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งด้วย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และใช้พยานหลักฐานเท็จ และคดีแพ่งชดใช้ค่าเสียหายระหว่างถูกจำคุก อย่างไรก็ดีสำหรับคดีที่ศาลจังหวัดมีนบุรี นั้น อัยการโจทก์ ก็ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์หลังจากศาลยกฟ้องครูแขกเช่นกัน (เมื่อวันที่ 7 ก.ย.60) คดีนั้นจึงเป็นที่สิ้นสุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ "ครูแขก" ถูกฟ้องต่อศาลจังหวัดมีนบุรี นั้นเป็นข้อหาร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ ซื้อ มี ใช้ สั่งหรือนำเข้า วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ , ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดฯ มาตรา 38 , 55 ,78 จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มี.ค.57 เกิดเหตุระเบิด ที่บริเวณลานดินกว้าง ติด ถ.ราษฎร์อุทิศ ระหว่าง ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อยู่ในสภาพถูกระเบิดพังเสียหาย