สปสช.เผย 1 ปี ปชช.เข้าถึงสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ 1.5 หมื่นราย

สปสช.เผย 1 ปี ปชช.เข้าถึงสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ 1.5 หมื่นราย

สปสช. เผยผลงานบรรลุเป้า 2 ใน 3 เป็นสิทธิบัตรทอง หลังพ้นวิกฤต 72 ชม. ส่งกลับผู้ป่วยรักษต่อ รพ.ตามสิทธิได้ 90% เคลียร์เบิกจ่ายค่ารักษาได้ตามเกณฑ์

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานตามนโยบาย "เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่" (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP) ที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.60 ว่า ภายหลังจากการดำเนิน นโยบาย "เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่" ก็ได้ช่วยให้ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยในช่วงภาวะฉุกเฉินวิกฤตเข้าถึงการรักษาได้ จากข้อมูลมีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ เข้ารับบริการ ประมาณ 15,000 ราย หรือเฉลี่ยเดือนละ 1,300 ราย โดยในจำนวนนี้ 2 ใน 3 เป็นผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง)

"1 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฉุกเฉินวิกฤตที่ต้องได้รับการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน นับเป็นนโยบายที่ช่วยปิดช่องว่างที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชนอย่างยิ่ง ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของรัฐบาลและความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน และ สปสช. ซึ่งทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าและพัฒนานโยบายนี้ เพื่อให้เป็นหลักประกันคุ้มครองการเข้าถึงการรักษาพยาบาลในยามเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้กับประชาชนต่อไป"

นพ.การุณย์ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวอีกว่า ช่วงแรกของการดำเนินการยอมรับว่ายังมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการคัดแยกผู้ป่วยว่าเข้าข่ายตามหลักเกณฑ์วินิจฉัยเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตหรือไม่ แต่หลังจากดำเนินการมาระยะหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงหลังมานี้ปรากฎว่าสถานการณ์ดีขึ้นมาก สามารถดำเนินการเพื่อดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตได้ตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก โดยผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด ณ จุดเกิดเหตุได้ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน แม้จะไม่ได้อยู่ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพก็ตาม

ขณะที่การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตดำเนินไปได้ด้วยดีเช่นกัน โดย สปสช.ประมวลผลค่ารักษาพยาบาลภายใน 30 วัน ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยสิทธิรักษาพยาบาลสวัสดิการข้าราชการและประกันสังคม สปสช. ส่งข้อมูลเบิกจ่ายไปยังกองทุนตามสิทธิของผู้ป่วย โดยแต่ละกองทุนจะจ่ายค่ารักษากับโรงพยาบาลที่รับดูแลผู้ป่วยภายใน 15 วัน ซึ่งที่ผ่านมาการเบิกจ่ายก็ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกรณีที่พ้นสิทธิรักษาฉุกเฉินวิกฤต 72 ชั่วโมงแล้ว หากผู้ป่วยบัตรทองยังไม่พ้นภาวะฉุกเฉินวิกฤต ผู้ป่วยอยู่ในภาวะไม่พร้อมย้าย หรือโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทองไว้ไม่มีเตียงหรืออุปกรณ์รองรับ หรือระบบไม่สามารถหาโรงพยาบาลอื่นเพื่อรองรับดูแลแทนได้ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะรับดูแลค่ารักษาต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามกรณีนี้มีไม่มาก ซึ่งที่ผ่านมา สปสช.สามารถหาโรงพยาบาลรองรับเพื่อนำผู้ป่วยกลับเข้าสู่หน่วยบริการภายใต้ระบบบัตรทองได้เกือบทั้งหมด ประมาณร้อยละ 90 ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยพ้นวิกฤตแล้วแต่ไม่ยอมย้าย ยังคงต้องการรักษาที่โรงพยาบาลเดิม ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่ารักษาหลังพ้น 72 ชั่วโมงเอง