กำลังซื้อแรงงานสวนทางเศรษฐกิจฟื้น

การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยทั่วประเทศ มาอยู่ที่ 315.97 บาทต่อวัน มีลูกจ้างรายวันที่ได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างราว 4 ล้านคน หรือ 12% ของแรงงานทั่วประเทศ ทำให้ค่าจ้างในกลุ่มนี้ขยับขึ้นประมาณ 3% แต่การปรับขึ้นค่าจ้างในครั้งนี้ อาจไม่ส่งผลบวกต่อกำลังซื้อในประเทศมากนัก

สาเหตุเพราะภาคธุรกิจอาจเลือกลดการจ้างงานลง เพื่อชดเชยกับต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บางธุรกิจอาจหันไปใช้ออโตเมชั่นหรือหุ่นยนต์เพื่อทดแทนแรงงาน ส่งผลให้รายได้ในภาพรวมของกลุ่มแรงงานไม่ได้เพิ่มขึ้น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2560 ที่ผ่านมา

ซึ่งมีการปรับขึ้นค่าจ้างในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 2% แต่การจ้างงานลดลง 2.2% ส่งผลต่อรายได้แรงงานลดลง 0.2% นอกจากนี้ ถ้าดูตัวเลขการว่างงานโดยรวมแล้ว จะเห็นว่าปรับขึ้นต่อเนื่องแม้สัดส่วนโดยรวมจะยังไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าสวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะเดียวกันจำนวนผู้มีงานทำล่วงเวลาก็ปรับลดลงต่อเนื่องเช่นกัน

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อภาพรวมกำลังซื้อในกลุ่มแรงงาน ซึ่งคอยกดดันการบริโภคภาคเอกชน