วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (5 เม.ย.61)

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังรัฐบาลจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ ในสินค้าหลายรายการ เพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐที่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ จะประทุขึ้นและส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ได้เปิดเผยตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบเมืองคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขึ้นมาแตะระดับ 34.9 ล้านบาร์เรล

+ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลลงมาแตะที่ระดับ 425.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรล โดยเป็นผลมาจากโรงกลั่นของสหรัฐ มีอัตราการกลั่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 หรือประมาณ 141,000 บาร์เรลต่อวัน

+ ข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคและผู้ผลิตนอกกลุ่มยังคงสนับสนุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ล่าสุดระดับการผลิตของกลุ่มโอเปคในเดือนที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ลดลง 90,000 บาร์เรลต่อวันลงมาแตะระดับ 32.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังการส่งออกน้ำมันดิบจากแองโกล่าปรับลดลง และการผลิตในประเทศลิเบียและเวเนซุเอล่าปรับตัวลดลง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากน้ำมันเบนซินคงคลังยังคงอยู่ในระดับที่สูง ประกอบกับอุปสงค์มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากเทศกาลรอมฎอน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่อยู่ในระดับสูง และราคาได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงหลังฤดูหนาวได้สิ้นสุดลง

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

• ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 62-67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
• ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 66-71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

• การร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปคยังคงอยู่ในระดับที่ดี โดยระดับความร่วมมือระหว่างทั้งสองกลุ่มในเดือน ก.พ. แตะระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มข้อตกลง นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตยังมีแนวโน้มร่วมมือกันต่อเนื่องในการปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงปี 2562
• ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ ปรับเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดย EIA รายงานกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 มาแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 10.4 ล้านบาร์เรลต่อวันและปริมาณการผลิตคาดจะปรับตัวสูงขึ้นกว่า 11 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสิ้นปีนี้

----------------------------------------