8เม.ย.กระทรวงกลาโหมครบ131ปี ย้ำ'เทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง'
กระทรวงกลาโหมครบ131ปี ในวันที่8เม.ย.นี้ ย้ำเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561 วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2561) เวลา 07.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กระทำพิธีถวายราชสักการะและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในศาลาว่าการกลาโหม ซึ่งได้แก่ เจ้าพ่อหอกลอง พระบวรฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมรูปหล่อและพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รูปหล่อจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง - ชูโต)
จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีสงฆ์ ณ ห้องพินิตประชานาถ เพื่อประกาศเกียรติคุณของกระทรวงกลาโหม และเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่กำลังพล ตลอดจนอุทิศส่วนกุศลให้กับนักรบไทยผู้ล่วงลับไปแล้ว นอกจากนี้ในวันเดียวกัน เวลา 10.30.น. พลเอก เทพพงศ์ ทิพจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนทหารซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก 
กระทรวงกลาโหม ถือเป็นองค์กรหลักด้านความมั่นคง มีหน้าที่ในการปกป้องเอกราช อธิปไตยและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ นอกจากนั้นยังได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในมิติอื่นๆ อาทิ การรักษาความสงบเรียบร้อย ภายในประเทศ การต่อต้านการก่อการร้าย ปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ การจัดระเบียบสังคม การทำประมงผิดกฎหมาย การบินพลเรือน ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ตลอดจนการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาลให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม
ในด้านการปฏิรูปกองทัพนั้น กระทรวงกลาโหมได้มีการปฏิรูปทั้งระบบการทำงาน โครงสร้างและอัตราการจัดหน่วย เสริมสร้างความพร้อมในด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ การฝึกศึกษา หลักนิยม การรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เพื่อให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจที่มีความหลากหลาย เหมาะสมกับการบริหารราชการยุคใหม่ โดยได้ปฏิรูปงานด้านการวิจัยพัฒนา และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ บนหลักพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง เพื่อมุ่งสู่การผลิตใช้ในราชการและเพื่อการพาณิชย์
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหม ยังได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกองทัพมิตรประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการเผชิญกับภัยคุกคามข้ามชาติ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตลอดจน ความร่วมมือในด้านอื่นๆ เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
