กอ.รมน.ผนึกป.ป.ท.ต้านทุจริตภาครัฐ ย้ำลงโทษรวดเร็ว-จริงจัง

กอ.รมน.ผนึกป.ป.ท.ต้านทุจริตภาครัฐ ย้ำลงโทษรวดเร็ว-จริงจัง

กอ.รมน.จับมือป.ป.ท. ลงนาม MOU ต้านทุจริตจนท.ภาครัฐ ย้ำลงโทษรวดเร็ว-จริงจัง นำมวลชนกำลังเสริม "กรทิพย์" ลั่นทำงานร่วมไม่ใช่"ซูเอี๋ยเจอทหารทำผิดพร้อมฟัน

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการ กอ.รมน.เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามการแสดงเจตจำนงร่วม เรื่องการพัฒนาความร่วมมือในการปฏิบัติการราชการด้านการร้องทุกข์ร้องเรียนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)กับ สํานักจเร ก.อ.รมน. โดยมี พล.อ.บุญชู เกิดโชค จเรกอ.รมน. และ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ร่วมลงนามฯ

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จัยทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.มีนโยบายให้ความสำคัญเร่งด่วนกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งจะสังเกตได้จากนโยบายของ หัวหน้าคสช.ที่ได้ประกาศมาและนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภาการประกาศในการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบเป็นวาระแห่งชาติและเป็นวาระยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยล่าสุดได้สั่งการในที่ประชุม ครม. ถึงการลงโทษอย่างจริงจังและรวดเร็วต่อข้าราชการที่ทุจริตและประพฤติมิชอบสำหรับหน่วยงาน ป.ป.ท.ถือเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐ ขอชื่นชมในขีดความสามารถ คุณธรรม ซื่อสัตย์และเสียสละของข้าราชการ ป.ป.ท.เป็นอย่างยิ่ง


พล.อ.บุญชู กล่าวว่า ในเจตนารมณ์ของกอ.รมน. โดยเลขาธิการ กอ.รมน. กล่าวไว้ชัดเจนว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นความมั่นคงและประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งสำนักงานจเรของกอ.รมน.ถือเป็นวิสัยทัศน์ของเลขาธิการกอ.รมน.ที่มุ่งหวังให้การทำงานของกอ.รมน.เป็นที่พึ่งพิงให้กับประชาชนได้ซึ่งหน่วยของเรามีหน้าที่ที่สำคัญที่จะทำให้การทำงานของกอ.รมน.สามารถตรวจสอบได้มีความโปร่งใสในการทำงานมากยิ่งขึ้น

พล.อ.บุญชู บอกอีกว่า ในขณะที่เริ่มปฏิบัติงานสำนักงานจเรกอ.รมน. มองเห็นว่าหน่วยงานของปปช เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีความสามารถและมีความตั้งใจและมีความคล้ายคลึงกัน และสร้างพันธมิตรร่วมกันจนมาถึงทุกวันนี้การประกาศเจตนารมณ์ของ 2 หน่วยงานในการทำงานในอนาคตเพื่อให้ช่องว่างการทำงานลดลงโอกาสที่จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการบริหารงานลดน้อยลงโดยอยู่ในกรอบในการอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วย

"กอ.รมน. จะเสริมในสิ่งที่ ป.ป.ท.ขาดแคลน เรามีกำลังที่อยู่ในภาคในจังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศ ที่จะทำงานร่วมกับ ป.ป.ท.ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ในอนาคต อย่างไรก็ตามการร่วมมือในวันนี้จะจุดประกายความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของพวกเราทุกคนและมวลชนของกอ.รมน. ที่จะเป็นหูเป็นตา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความเจริญและการพัฒนาประเทศ" พล.อ.บุญชู กล่าว

พ.ท.กรทิพย์ ย้ำว่า สำนักงาน ป.ป.ท.กับกอ.รมน. ได้ร่วมมือการร่วมงานก่อนหน้าที่จะเซ็น MOU ฉบับนี้ ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการต่อต้านการทุจริต ทั้ง 2 หน่วยงานมีบทบาทคล้ายคลึงกันและตรวจสอบและมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวกันเกินนายกรัฐมนตรีและมีเป้าหมายอันเดียวกันคือความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนของประเทศชาติทั้ง 3 ประการก่อให้เกิดความร่วมมือได้ง่ายขึ้น เป็นพันธมิตรร่วมรบในการต่อต้านการทุจริต ซึ่งเราคงไม่มีบทบาทแค่ตรวจสอบการทุจริตหรือการดำเนินการแต่เราจะมีบทบาทร่วมกันในการจัดสรรสร้างความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนของประเทศชาติต่อไป

"หากพบการทุจริตที่เกี่ยวกับทหาร ป.ป.ท.จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยไต่สวนชี้มูล นอกเหนือจากนั้น ส่งไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ยืนยันว่าเป็นการทำงานร่วมกันไม่ใช่ ซูเอี๋ย ป.ป.ท.จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แม้แต่มีการทุจริตในกอ.รมน ก็ไม่ละเว้น ไม่เช่นนั้นจะโดนมาตรา 157 ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจำนวน 14,000 เกี่ยวกับทหารกว่า 500 เรื่องที่ทำความผิดร่วมกัน"พ.ท.บุญชู กล่าวและว่า ส่วนการตรวจสอบคดีกองทุนเสมาและการทุจริตเงินคนยากไร้ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ยืนยันว่า ทุกคดีที่เข้ามา ป.ป.ท.กำลังไต่สวนอยู่