MORNING CALL ACTION NOTES (4 เม.ย.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (4 เม.ย.61)

ดีดตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ อ่อนตัวผันผวนตามตลาดหุ้นทั่วโลกซึ่งกลับมากังวลสงครามทางการค้าอีกครั้งหลังจีนเริ่มมีมาตรการตอบโต้ กอปรกับราคาน้ำมันอ่อนตัว โดยรวมกลุ่ม ENERGY กดดันตลาดไปกว่า 8 จุด ส่วน PROP FIN และ BANK ราวกลุ่มละ 2 จุด ขณะที TRANS บวกมาชดเชยบางส่วน โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,765.24 จุด (-17.04 จุด) Volume 6.21 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -478.39 ลบ.  TFEX Net -727 สัญญา ตราสารหนี้ +7,188.45 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่งโดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐ

+น้ำมันดิบปิดบวกเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงมาแล้วราว 3%  นลท.จับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ

+กกร.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 61 โต 4-4.5% จากเดิม 3.8-4.5%ได้แรงหนุนจากส่งออก-ท่องเที่ยว โดยเพิ่มคาดการณ์ส่งออกเป็น 5-8% จากเดิม 3.5-6%

-ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.ของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 56.6 ลดลงจากเดือนก.พ.

-คลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น ก.พ.61 อยู่ที่ 41.34% ของ GDP เพิ่มขึ้นสุทธิ 22,318.98 ล้านบาท แต่ยังต่ำกว่าเพดานหนี้ที่ระดับ 60% ของ GDP)

-ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังหารือถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุก

+/-ประธาน สนช.เผยลงนามส่งร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.97 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.18 บาท/USD

**จับตาสหรัฐ เปิดเผย ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน - ดัชนี PMI ภาคบริการ

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาค  ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น ขณะทียังมีปัจจัยลบกดดันจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังผันผวน ปัจจัยบวกในประเทศเรื่องดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจและตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าเป้ามีน้ำหนักไม่มากนัก  คาด SET เคลื่อนไหวใน 1,755-1,780 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- MONO เรตติ้งเดือนม.ค. – มี.ค. 61 ยืนอันดับที่ 3 จากต้นปี 60 อยู่ที่อันดับ4

- GPI KKP TISCO TCAP หุ้นได้ประโยชน์จากงานมอเตอร์โชว์

- CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.

- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT

หุ้นแนะนำพิเศษ

GPI (ราคาปิด 3.16 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 4.20 บาท)

  • การเติบโตของปี 61 จากการปรับเพิ่มค่าเช่างาน Motor show ราว 7% เนื่องจากเมื่อเทียบเป็นเม็ดเงิน ส่วนเพิ่มของรายได้ มากกว่าส่วนเพิ่มของค่าใช้จ่ายกว่า 4 เท่าตัว
  • นอกจากนี้ โอกาสการเป็นผู้จัดมอเตอร์โชว์ที่เมีนยมาร์ 2 ครั้งรวด ในปีนี้ ยังมีความชัดเจนมากขึ้นหลังบริษัทเผยกรอบวันที่จัดงานครั้งแรก ราว 20 - 29 กค 61 ซึ่งคาดว่าบริษัทจะไม่มีผลขาดทุนจากการจัดงานด้วยประสบการณ์จากไทย และความร่วมมือกับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำมาอย่างยาวนาน
  • โดยรวม ประมาณการปัจจุบันของฝ่ายวิจัย ปี 61 คาดเติบโต 7%YoY ยังไม่รวมงานจากเมียนมาร์ และ Air Race1 สะท้อน upside ปรับเพิ่มประมาณการ เงินสดสุทธิต่อหุ้นอีกกว่า 1.3 บาท บ่งชี้ราคาหุ้นที่มี downside ไม่มากพร้อมคาดปันผลอย่างต่ำ 4.1% ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 4.20 บาท

หุ้นมีข่าว   

·        ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา : ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.ร่วมทุนภาครัฐ-เอกชน ((PPP Fast Track) ที่ช่วยส่งเสริมการลงทุนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้ชัดเจน กระชับ มีมาตรฐานสากล ลดขั้นตอนกระบวนการต่างๆให้สั้นลง ทั้งนี้ขั้นตอนต่อไปคือส่งให้สนง.กฤษฎีกาพิจารณา

·        (+)  DTC เปิดตัวโรงแรมแบรนด์ใหม่ ชื่อ"อาศัย" (ASAI) เตรียมผุดแห่งแรกย่านตลาดนัดสวนจตุจักร Q1/62 เล็งขยายทั้งใน-ตปท.ปีละ 10 แห่ง  คาดสรุปซื้อกิจการโรงแรมเอเชีย-ยุโรปภายในปีนี้ทดแทนรายได้"ดุสิตธานีกรุงเทพ" (ที่มา อินโฟเควสท์)

·        (+/-) GPSC เตรียมเสนอโครงการผลิตไฟฟ้าป้อนโรงงานใหม่ของ PTTGC ราว 200-300 MW คาดชัดเจน Q2/61 เนื่องจากทั้ง 3 โรงงานดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการภายในปี 63 ทำให้จำเป็นต้องเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวภายในปีนี้ (ที่มา อินโฟเควสท์)

·        ประเด็นลบกลุ่มทีวีดิจิตอล คสช.ยังไม่พิจารณามาตรการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล-โทรคมนาคมวันนี้ นายกฯ สั่ง"วิษณุ"เร่งหาข้อสรุป

·        ประเด็นลบ TPCH รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะชะลอรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในช่วง 5 ปีจากนี้ (ที่มา http://www.thansettakij.com) เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังไม่มีโครงการโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมหลังจาก IPO ปี 58 โดยการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในภาคใต้ถือเป็นศักยภาพในการขยายกำลังการผลิตของบริษัทหากรัฐบาลชะลอการับซื้อไฟฟ้าก็จะทำให้โอกาสการเติบโของบริษัทล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตามบริษัทได้ยื่นโรงไฟฟ้าขยะชุมชนซึ่งคาดว่ากกพ. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกภายใน 31 ต.ค.61 ยังเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัท

·        กลุ่มโทรคมนาคม : ในเวลา 17.00 น. ของวันนี้ รองนายกฯมีนัดหมาย กสทช. และ TDRI หาทางออกที่เหมาะสมเกี่ยวกับการออกมาตรา 44 เยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและโทรคมนาคม หลังหลายฝ่ายเห็นว่าทางการควรจะมีการแยกเรื่องการช่วยเหลือระหว่างทีวีกับค่ายมือถือออกจากกัน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว คาดว่าในวันอังคารที่ 10 เม.ย. 61 จะนำเรื่องเสนอต่อ คสช.และครม. ต่อไป

·        ความเห็น เบื้องตัน ฝ่ายวิจัยยังคงเชื่อว่าการเยียวยาใบอนุญาตคลื่น 1800 MHz เป็นบวก TRUE (BB Consensus 7.25 บาท) มากสุดเนื่องจากมีสถานะทางการเงินและผลประกอบการปกติที่ตึงตัว การขยายระยะเวลาชำระค่าบริการจะสามารถช่วยลดภาระดอกเบี้ยได้ราวปีละ 2 - 3 พันล้านบาท (ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยของธนาคารและดอกเบี้ยจากภาครัฐ) แต่ทั้งนี้ ราคาปัจจุบันมีการปรับขึ้นจากแรงเก็งกำไรมาบางส่วนแล้ว (ตั้งแต่ คสช.ส่งหนังสือกลับมาให้ กสทช.หลัง TDRI มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือวันที่ 29 มี.ค. 61) ราว 4.3% จึงแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ด้วยความระมัดระวัง

Profin Coin

·        เป็นการระดมเงินในรูปแบบ Initial Coin Offering(ICO) เพื่อใช้ปล่อยกู้สำหรับบริษัทผู้รับเหมาที่ต้องการขายลดใบวางบิลในรูปแบบ Factoring เพื่อนำเงินไปใช้หมุนเวียนในการทำดำเนินงาน โดยทำการปล่อยกู้โดยตรงระหว่างนักลงทุนและบริษัทรับเหมาส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และบริษัทรับเหมามีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง

·        โดย Profin Coin จะทำการ ICO 500 ล้านเหรียญมูลค่าเหรียญละ 1 บาท (คงที่) เพื่อให้นักลงทุนเลือกบริษัทผู้รับเหมาในการปล่อยกู้ผ่านเหรียญ โดยบริษัท Profin Group จะเป็นตัวกลางในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและดูแลเงินรวมถึงช่วยติดตามทวงหนี้ให้แก่นักลงทุน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเป็น Profin Coin โดยสามารถทำการขายคืนบริษัทได้ที่ราคา 1 บาท/เหรียญ ปีละ 1 ครั้ง หรือซื้อขายในตลาดรองได้

(+)AP (ราคาปิด 8.05 Bloomberg Consensus 9.80)

·        มียอดขาย presale ในช่วง 1Q61 กว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 168% แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 5,200 ล้านบาท เติบโต 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 4,800 ล้านบาท  เติบโต 770% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 30% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีนี้ที่ตั้งไว้ 33,500 ล้านบาท ยอดขายในช่วง 1Q61 ที่เพิ่มขึ้นมาจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ LIFE สุขุมวิท 62 และโครงการ แอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์ รวมถึงคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในเครือของบริษัท โดยได้มีการการขายมออนไลน์เต็มรูปแบบผ่าน AP i-Booking นอกจากนี้ยังมีโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมีนัยสำคัญ

·        ความเห็น ถือเป็น sentiment เชิงบวกในการมี backlog ที่แข็งแกร่ง ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในอนาคต Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 ราว 3.5 พันล้านบาท +10% ราคาหุ้นปัจจุบัน -12%YTD โดยซื้อขายที่ PER 8 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 17 เท่า  ขณะที่ IAA Consensus คาด Yield ราว 4.7% เหมาะถือลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล