ตามรอยออเจ้า เที่ยวอยุธยา-วัดไชยฯเพิ่ม7เท่า รายได้ทะลุพันล้านต่อเดือน

ตามรอยออเจ้า เที่ยวอยุธยา-วัดไชยฯเพิ่ม7เท่า รายได้ทะลุพันล้านต่อเดือน

ปลัดท่องเที่ยวฯเช็คความพร้อมอยุธยา อำนวยความสะดวกหลังนทท.แห่ตามรอย "ออเจ้า" ละครดัง เที่ยวอยุธยา-วัดไชยฯเพิ่ม7เท่า รายได้เฉลี่ยจ่อทะลุพันล้านต่อเดือน

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในการลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้เยี่ยมเยือนทั้งหมดเฉลี่ยปีละ 7,380,000 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 74 เป็นผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย โดยมีชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวเฉลี่ยเดือนละ 450,000 คน และสร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละ 900 ล้านบาท

1_4

ภายหลังละครบุพเพสันนิวาสซึ่งเป็นละครย้อนยุคในช่วงกรุงศรีอยุธยา ออกอากาศและได้รับความนิยม ทำให้เกิดกระแสการตามรอยท่องเที่ยวชมวัดและโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นโบราณสถานและฉากสำคัญในละคร มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าปกติถึง 7 เท่า ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางเป็นหมู่คณะ เนื่องจากต้องการมาสัมผัสสถานที่จริง และแต่งกายในชุดไทยสวยงาม เพื่อมาถ่ายรูปเก็บภาพเป็นที่ระลึก จากการติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยวพบว่า โดยภาพรวมอัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ยร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 และปัจจุบันเริ่มมีบริษัททัวร์เปิดรับจองรายการนำเที่ยวตามรอยละครแบบ One day trip ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดให้คึกคักมากขึ้น และคาดว่ากระแสการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดประมาณวันละ 30 ถึง 33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15 จากช่วงเวลาปกติ จึงนับเป็นโอกาสดีที่กระแสความนิยมของละครซึ่งเป็นเรื่องของความบันเทิงที่เข้าถึงทุกครัวเรือนสามารถกระตุ้นความรู้สึกชักนำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้หวนมารำลึกถึงประวัติศาสตร์และความเป็นไทยอันเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่รัฐบาลมีนโยบายเชิญชวนนุ่งไทยใส่ผ้าพื้นเมืองรำลึกเรื่องอดีต

ปลัดฯท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่าตนได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้กำกับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั้งทางบกและทางน้ำทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจซึ่งในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีการเปิดเมืองให้สามารถท่องเที่ยวในแต่ละวันได้ถึงเวลา 21.00 น.ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Night Tourism เพื่อต่อยอดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวมาที่นี่แล้วมีการพำนักค้างคืนเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายให้เม็ดเงินให้เกิดการหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

2_7


สำหรับวันนี้ตนมีกำหนดที่จะมาตรวจเยี่ยมวัดพนัญเชิงและลงเรือตรวจการณ์ของตำรวจท่องเที่ยว เพื่อตรวจมาตรการความปลอดภัยทางน้ำไปยังวัดพุทไธศวรรย์และต่อไปยังวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่บรรดาสาวก “ออเจ้า” ทั้งหลายต้องมาชมและถ่ายภาพให้ได้ ซึ่งในวันที่ 7 เมษายน 2561 ณ ที่แห่งนี้ก็จะมีการจัดกิจกรรมดนตรี บรรเลงโดยวง symphonic band เวลาประมาณ 16.30-19.30 น.นอกจากนี้ก็จะไปดูการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว ณ วัดมหาธาตุซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อรับทราบถึงปัญหาข้อจำกัดต่างๆ ในการทำงานจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย

นอกจากนั้นตนขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้าดูข้อมูลจากแอปพลิเคชั่นมือถือ“ThailandTourismDirectory”ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดทำไว้ ขณะนี้สามารถรองรับได้ 3 ภาษาคือ ไทย จีน และอังกฤษ  ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวทั้งในเรื่องแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยว  เส้นทางการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว  รวมถึงรายละเอียดของโรงแรมที่พักที่มีมาตรฐานได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้อง  ข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะได้รับการเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากเจ้าของข้อมูลในพื้นที่ ชุมชน ท้องถิ่น ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยผ่านกลไกการตรวจสอบจากศูนย์ปฏิบัติการ Digital Tourism ก่อนนำออกเผยแพร่ ดังนั้นวันนี้ทุกคนสามารถเปิดเข้าแอปพลิเคชั่นดูการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดอยุธยาซึ่งมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง รวมถึงสามารถเข้าชมพื้นที่อื่นๆ ได้ทั่วประเทศไทยทุกที่ทุกเวลาเพียงปลายนิ้วสัมผัส

3_7

และสำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะวันที่ 13 เมษายน 2561 ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีกำหนดจัดกิจกรรมทำบุญเมือง ณ วัดพระศรีสรรเพชญ์ โดยจะมีการเชิญทีมงานและนักแสดงจากละครบุพเพสันนิวาสเข้าร่วมกิจกรรมด้วยซึ่งทางจังหวัดคาดว่าจะมีแฟนพันธุ์แท้บุพเพสันนิวาสมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก จึงขอให้คนไทยทุกคนเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเทศกาลสงกรานต์ด้วยความสนุกสนานอยู่ในขอบเขต 

5_2

พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันสอดส่องดูแลให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตนอยู่ในขนบธรรมเนียมอันดีงามและกรอบของกฎหมาย ตามกฎระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยว ช่วยกันรักษาสมบัติโบราณสถานมรดกของชาติและของโลกและขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันเฝ้าระวังเพื่อลดอุบัติเหตุและการสูญเสียอันอาจเกิดจากความประมาทเพื่อให้เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความฉ่ำเย็นของสายน้ำและเป็นเทศกาลแห่งความสุขของชาวไทยอย่างแท้จริง