ดีเอสไอเชื่อ'เสี่ยกำพล'หนีออกช่องทางธรรมชาติแล้ว

พ.ต.ท.สุภัทร ธรรมธนารักษ์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนการสอบสวนพร้อม ความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ สถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเคร็ท ย่านพระราม 9 จำนวน 72 แฟ้ม กว่า 17,000 แผ่น มาส่งให้กับอัยการคดีค้ามนุษย์ เพื่อพิจารณาและมีความเห็นสั่งคดี

โดย นายบดินทร์ แสนสระดี รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ กล่าวว่า การส่งสำนวนครั้งนี้ เป็นการส่งสำนวนคดีที่ 2 เกี่ยวกับความผิดที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 45 คน แบ่งเป็นกลุ่ม ประกอบด้วย 1.เจ้าของสถานบริการ 2.พนักงานเชียร์แขก 3.แคชเชียร์ 4.นายหน้า ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซึ่งทั้งหมดถูกฟ้องในข้อหาหลักคือร่วมกันค้ามนุษย์ และยังมีข้อหาอื่นๆแตกต่างกันตามความผิดของแต่ละบุคคล

โดยขั้นตอนหลังจากพนักงานอัยการรับสำนวนการสอบสวนจากดีเอสไอแล้ว จะมีการตรวจรับ และตั้งคณะทำงานอัยการขึ้นมาพิจารณาอย่างรอบครอบ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องให้ทันกำหนด ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจะครบกำหนดฝากขังผัดสุดท้ายวันที่ 5 เม. ย.นี้

ขณะที่ พ.ต.ท.สุภัทร ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ กล่าวว่า มั่นใจในพยานหงักฐาน และสำนวนการสอบสวน เชื่อว่าจะสามารถเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด

ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาคนสำคัญ อย่างนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ เสี่ยกำพล เจ้าของ สถานบริการ วิคตอเรียซีเคร็ต เชื่อว่าเดินทางออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามหากพบที่อยู่ชัดเจน จะประสานอัยการต่างประเทศเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตนเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคกับการดำเนินคดี แม้ว่าจะยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหา

อย่างไรก็ดีเรื่องการติดตามตัวผู้ต้องหา สำหรับนายกำพลนั้น เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับอยู่แล้ว จึงสามารถใช้มาตรการตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ได้เลย ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ หากอยู่ในประเทศไทยก็สามารถใช้หมายเรียก ตาม ป.วิอาญาได้เลย ขณะที่ผู้ต้องหาซึ่งคาดว่าอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านนั้นสามารถดำเนินการ ตาม พ.ร.บความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีค้ามนุษย์สถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว 1 สำนวนซึ่งเกี่ยวพันกันเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร โดยพนักงานสอบสวน ดี เอสไอมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายกำพล กับพวกรวม 7 คน ในข้อหาหลัก ร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดอื่นอีกหลายข้อหา