พาณิชย์ดึงห้างสรรพสินค้าช่วย ซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์

พาณิชย์ดึงห้างสรรพสินค้าช่วย ซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์

กรมการค้าภายในดึงห้างสรรพสินค้า ค้าปลีกสมัยใหม่ รับซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ ในราคาสูงกว่าตลาดสร้างแรงจูงใจทำผลผลิตปลอดสารพิษ

น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ให้เข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เพิ่มเริ่มต้นผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยได้ทำการเชื่อมโยงให้มีการจับคู่ทำธุรกิจ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเกษตรกรที่เพิ่งหันมาทำเกษตรอินทรีย์ได้มีกำลังใจและมีแรงในการขับเคลื่อนการทำเกษตรอินทรีย์ เพราะมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอนเพื่อเป็นการรับประกันให้กับเกษตรกรว่า การเพาะปลูกพืชผัก ผลไม้ หรือทำปศุสัตว์อินทรีย์ จะมีตลาดรองรับผลผลิตแน่นอน แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นทำ เพราะกรมฯ ได้ประสานห้างให้เข้ามาช่วยรับซื้อ โดยราคาที่รับซื้อจะสูงกว่าราคาสินค้าชนิดเดียวกันที่ไม่ทำแบบอินทรีย์ แต่ก็ไม่สูงเท่ากับสินค้าที่เป็นอินทรีย์แล้ว ซึ่งหากในอนาคต สินค้าปลอดสารเคมี ไม่มีสารตกค้างแล้ว ก็จะเพิ่มราคาให้เท่ากับการรับซื้อสินค้าที่เป็นอินทรีย์

โดยการดำเนินการในรูปแบบนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มและขยายพื้นที่เพาะปลูกสินค้าอินทรีย์ แต่ยังเป็นการช่วยดูแลและปกป้องสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศด้วย โดยที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการในจังหวัดน่าน ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีข้อมูลว่าเป็นจังหวัดที่ทำลายสิ่งแวดล้อมสูงมาก มีการใช้สารเคมีสูง มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม กรมฯ จึงได้เข้าไปให้คำแนะนำ เข้าไปช่วยผลักดันให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมี และหันมาเพาะปลูกแบบอินทรีย์ และดึงห้างเข้าไปรับประกันว่าจะรับซื้อผลผลิตทั้งหมด โดยมั่นใจว่า ในอนาคตจังหวัดน่าน จะเป็นจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อมดีขึ้น

สำหรับการดำเนินการในรูปแบบนี้ กรมฯ มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้เป้าหมายการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์เป็น 6 แสนไร่ภายในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 2 แสนไร่ หรือเพิ่มขึ้นกว่า3เท่าตัว ทำได้เร็วขึ้น เพราะเกษตรกรจะมีแรงจูงใจในการทำเกษตรอินทรีย์ และยังมั่นใจว่าจะผลักดันให้มีจำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นราย

ปัจจุบันตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ2,700ล้านบาท เติบโตปีละประมาณ 20% โดยแบ่งเป็นตลาดภายในประเทศ 800 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 1,900 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการส่งออกคิดเป็น 0.07% ของมูลค่าตลาดโลก ทำให้ยังมีโอกาสขยายตลาดได้อีกมาก ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ