‘นกแอร์’ เล็งหั่นเที่ยวบินลง5%แก้ดีเลย์ เริ่ม พ.ค.นี้

‘นกแอร์’ เล็งหั่นเที่ยวบินลง5%แก้ดีเลย์ เริ่ม พ.ค.นี้

"นกแอร์" เล็งหั่นเที่ยวบินภายในประเทศลง 5% เพื่อแก้ไขปัญหาเที่ยวบินล่าช้า ชี้ส่งผลกระทบต่อรายได้เพียงเล็กน้อยเพราะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยหลังเชิญนายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเที่ยวบินล่าช้าหรือดีเลย์ว่า ขณะนี้นกแอร์มีปัญหาดีเลย์มากกว่าสายการบินอื่น โดยส่วนหนึ่งเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ปัญหาหมอกควัน สภาพอากาศแปรปรวน เพราะนกแอร์มีจุดบินในประเทศมากที่สุดถึง 25 จุด บางจุดก็ให้บริการเพียงสายการบินเดียว ทำให้เจอปัญหาแตกต่างจากสายการบินอื่น

นอกจากนี้ อีกส่วนเกิดจากนกแอร์บริหารเที่ยวบินไม่สอดคล้องกับความหนาแน่นของสนามบินดอนเมือง ทำให้มีเวลาบริหารเที่ยวบินขาเข้าและออกจากสนามบินน้อยเกินไป เสี่ยงต่อจะเกิดปัญหาดีเลย์ เบื้องต้นจึงขอให้นกแอร์เผื่อเวลาในการนำเครื่องขึ้นและลงจากสนามบินมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันของสนามบินดอนเมือง

“ในที่ประชุมนกแอร์ได้เสนอแผนแก้ปัญหาดีเลย์ ซึ่งก็น่าพอใจ แต่ต้องติดตามว่านกแอร์จะจัดการอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ โดยปัญหาที่พบขณะนี้ คือ การดูแลหน้างานเมื่อเกิดปัญหาดีเลย์ ต่อไปนกแอร์จะต้องชี้แจงผู้โดยสารให้มากกว่านี้ รวมทั้งจะต้องจัดเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเข้ามาดูแล รวมทั้งอาจจะต้องมีข้อความเอสเอ็มเอสแจ้งให้ผู้โดยสารรับทราบล่วงหน้า หากมีแนวโน้มว่าเที่ยวบินจะดีเลย์ด้วย” นายจุฬา กล่าว

นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นกแอร์จะปรับตารางบินใหม่ให้สอดคล้องกับความหนาแน่นของสนามบินดอนเมือง โดยเบื้องต้นจะปรับลดจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศ สำหรับตารางการบินฤดูร้อนช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย. ลง 10 เที่ยวบิน หรือราว 5% จากทั้งหมด 180 เที่ยวบิน รวมทั้งจะเผื่อเวลาในการนำเครื่องบินขึ้นและลงสนามบินให้มากขึ้น โดยเฉพาะเที่ยวบินต่างประเทศที่ใช้เวลาต่อเครื่องมากกว่าปกติ

“เราจะเริ่มปรับลดเที่ยวบินตั้งแต่ 15 พ.ค.-15 ก.ย. ลงประมาณ 5% เชื่อว่าจะไม่กระทบกับรายได้มากนัก เนื่องจากเป็นตารางบินฤดูร้อนซึ่งมีจำนวนผู้โดยสารไม่มากอยู่แล้ว โดยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 82%” นายปิยะกล่าว

นายปิยะกล่าวต่อว่า สภาพอากาศแปรปรวนและหมอกควันจากไฟป่าส่งผลให้เที่ยวบินในภาคเหนือเกิดปัญหาดีเลย์บ่อยครั้ง โดยเฉพาะ 4 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-แม่สอด, กรุงเทพฯ-ลำปาง, กรุงเทพฯ-เลย และ กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน โดยตั้งแต่เปิดจุดบิน จ.แม่ฮ่องสอน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็พบปัญหาดีเลย์จากควันไฟตลอด นกแอร์จึงเตรียมแก้ไขปัญหาด้วยการปรับเที่ยวบินนี้จากช่วงเช้ามาเป็นช่วงบ่ายที่มีแสงแดด ทำให้ทัศนวิสัยในการบินดีขึ้น

สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์หยุดยาวปีนี้ นกแอร์แทบไม่เพิ่มเที่ยวบินเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดีเลย์ โดยจะเพิ่มเพียง 2 เที่ยวบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-ตรัง เพราะเป็นเส้นทางที่มีความถี่น้อย นอกจากนี้จะนำเครื่องบินโบอิง 737 จำนวน 2 ลำ มาเตรียมสำรองไว้ใช้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และสั่งการให้ผู้บริหารทุกคนห้ามหยุดงานเพื่อต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยังคงเป้าหมายให้ปัญหาเที่ยวบินดีเลย์เป็นศูนย์ในช่วงสงกรานต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการสายการบินนกแอร์คนใหม่ ได้มอบนโยบายให้ฝ่ายบริหารเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพเรื่องความตรงต่อเวลาของเที่ยวบิน และต้องพัฒนาการสื่อสารกับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงการปรับปรุงวิธีการดูแลผู้โดยสาร ขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับปัญหาที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

โดยฝ่ายบริหารของสายการบินได้ชี้แจงต่อที่ประชุมบอร์ดถึงมาตรการในการจัดการต่าง ๆ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนเมษายน รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และการเตรียมการเครื่องบินให้มีความพร้อมสำหรับช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งนายประเสริฐมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของนกแอร์ในปีนี้จะดีขึ้นต่อเนื่อง