เปลี่ยนสายพานแอร์ รถเมล์เอ็นจีวีใหม่แล้วทั้ง100 คัน

เปลี่ยนสายพานแอร์ รถเมล์เอ็นจีวีใหม่แล้วทั้ง100 คัน

เอกชนแจงเปลี่ยนสายพานแอร์ รถเมล์เอ็นจีวีใหม่แล้วทั้ง100 คัน หวั่นมีปัญหาซ้ำถูกปรับ 600 บาท/ชม.

เมื่อวันที่ 30 มี.ค.61 นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงกรณีที่รถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (รถเมล์เอ็นจีวี) ซึ่งเป็นรถเมล์ใหม่ เกิดปัญหาขัดข้องและต้องหยุดให้บริการถึง 2 ครั้งว่า เหตุขัดข้องทั้ง 2 ครั้ง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่และแก้ไขเสร็จแล้ว โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรับมอบรถเมล์เอ็นจีวี 100 คันแรกอย่างแน่นอน สำหรับกรณีที่รถเมล์เอ็นจีวีสาย 138 หยุดให้บริการในวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา เกิดจากขนาดและการตั้งค่าสายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่เหมาะสม ส่งผลให้สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ขาด

กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ผู้จัดหาและซ่อมบำรุงรถเมล์เอ็นจีวี รับทราบปัญหาดังกล่าว และตัดสินใจเปลี่ยนสายพานคอมเพรสเซอร์แอร์บนรถเมล์เอ็นจีวีครบทั้งหมด 100 คันในคืนวันนั้น (29 มี.ค.) เนื่องจากถ้ารถเมล์ไม่สามารถให้บริการได้ เอกชนต้องจ่ายค่าปรับให้ ขสมก. ในอัตรา 600 บาทต่อชั่วโมงต่อคัน โดยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ทำให้รถเมล์หยุดวิ่งไปประมาณ 30 นาที ซึ่ง ขสมก. จะบันทึกข้อมูลและเรียกเก็บค่าปรับจากเอกชนภายหลัง

ส่วนกรณีที่รถเมล์เอ็นจีวีสาย 140 หยุดให้บริการบริเวณถนนราชปรารภ ในเวลาประมาณ 7.00 น. วันนี้ (30 มี.ค.) นั้น นายประยูรชี้แจงว่า เกิดจากสัญญาณเตือนบนรถเมล์ดังขึ้น ทำให้พนักงานขับรถไม่มั่นใจและตัดสินใจหยุดให้บริการระหว่างทาง แต่เมื่อฝ่ายเทคนิคตรวจสอบภายหลังก็ไม่พบปัญหาใดๆ และนำรถออกให้บริการต่อได้ ขณะเดียวกันก็ได้ให้ผู้โดยสารขึ้นรถเมล์คันถัดไปโดยไม่เก็บค่าโดยสารเพื่อเป็นการดูแล

แต่จากเหตุดังกล่าว ขสมก. คงต้องอบรมและสร้างความเข้าใจกับพนักงานขับรถมากขึ้น โดยขณะนี้ ขสมก. กำลังทยอยอบรมพนักงานขับรถทั้ง 4 เขตการเดินรถ เพื่อให้เคยชินกับรถเมล์ใหม่และไม่เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นอีก

“ช่วงนี้เป็นการทดลองเดินรถเมล์เอ็นจีวี 100 คัน ซึ่งก็พบปัญหาบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่จนกระทบต่อการรับมอบรถ ทดลองวิ่งอีก 2-3 วันก็น่าจะเข้าที่ คิดว่าจะลงนามรับรถจากเอกชนได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า” นายประยูรกล่าว