MORNING CALL ACTION NOTES (30 มี.ค.61)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังมีความกังวลจากการเลื่อนเลือกตั้งหลัง สนช.ยื่น พรป.ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ กอปรกับราคาน้ำมันอ่อนตัว โดยรวมส่งผลให้ กลุ่ม ENERG BANK COM TRANS CONMAT กดดันตลาด โดยมีเพียงแค่ HELTH เป็นบวก โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,766.92 จุด (-18.07 จุด) Volume 8.42 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -1,698.86 ลบ.  TFEX Net -26,529 สัญญา ตราสารหนี้ +609.64 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปิดพุ่ง โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และนักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อหุ้นเพื่อ window dressing

+น้ำมันดิบดีดตัวขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง อีกทั้งโอเปกและประเทศนอกกลุ่มฯ ได้แสดงความพร้อมที่จะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม

+จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับในรอบ 45 ปี และการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.

+ สศค.เผยเศษฐกิจไทยเดือน ก.พ.61 ขยายตัวต่อเนื่องตามส่งออก-บริโภคเอกชนเติบโตดี ท่องเที่ยวโตสูง

+ปธน.สหรัฐลงนามเห็นชอบผร่างกฎหมายการต่ออายุ GSP) ทำให้โครงการ GSP ได้ต่ออายุไปจนถึง 31 ธ.ค.63 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 22 เม.ย.61 เป็นต้นไป และจะมีผลย้อนหลังถึงวันที่โครงการหมดอายุงตั้งแต่ 31 ธ.ค.60

-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขยับลงสู่ระดับ 101.4

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.73 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.27 บาท/USD

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นดาวโจนส์และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ขายอย่างต่อยังกดดันดัชนีให้ปรับตัวขึ้นได้จำกัด คาด SET เคลื่อนไหวใน 1,760-1,780 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- KCE HANA DELTA เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.23 บาท/$ และราคาทองแดงปรับตัวลง 4%MTD สู่ 6,640 $/Ton

- GPI KKP TISCO TCAP หุ้นได้ประโยชน์จากงานมอเตอร์โชว์

- CENTEL TOP TMB CPN ROBINS คาดเป็น target ทำ window dressing

- CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.

- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT

หุ้นแนะนำพิเศษ

DTAC (ราคาปิด 45 บาท Bloomberg Consensus 52.34 บาท)

- ผลประกอบการ 1Q61 น่าจะมีการเติบโต YoY กว่า 200% (Bloomberg Consensus) จากฐานที่ต่ำมาก (ช่วงที่มีการแข่งขันรุนแรง) จากค่าใช้จ่ายที่อาจยังทยอยลดลงต่อ ขณะที่รายได้ยังทรงตัว YoY หลังส่วนแบ่งการตลาดอาจจะยังทรงตัว

- เป็นผู้ประกอบการโทรคมนาคม ที่แม้ยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านใบอนุญาตในมือมากสุด (คลื่น 900 – 1800 MHz จะหมดอายุในวันที่ 16 ก.ย. 61) แต่ปัจจุบันยังคงมี Solution ในการช่วยทยอยปิดความเสี่ยงทั้ง การทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับ TOT อย่างเป็นทางการหลังรอติดตามการพิจารณาร่างสัญญาจากหน่วยงานสุดท้ายคือ สำนักงานอัยการสูงสุดภายในงวด 2Q61 รวมถึงการประมูลคลื่น 900 – 1800 MHz ซึ่งภายหลังจากได้รับการยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ กสทช.ชุดปัจจุบัน (รักษาการ) สามารถจัดการประมูลได้

- ทั้งนี้ ต้องติดตามการประชุมบอร์ด กสทช.วันที่ 11 เม.ย.นี้ เกี่ยวกับการประมูลคลื่นดังกล่าว อีกครั้งว่ากฎเกณฑ์จะเหมือนเดิมหรือไม่ ขณะที่ด้าน Valuation ของ DTAC ซื้อขายในระดับ EV/EBITDA เพียง 4.5 เท่า เทียบค่าเฉลี่ย 3 รายที่ 7.3 เท่า จึงแนะนำ “ทยอยซื้อสะสม”

หุ้นมีข่าว   

·         NYT มั่นใจผลงานปี 2561 ดีกว่าปี 2560 สอดคล้องภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดยอดส่งออกปีนี้โตทะลุเป้า 1.1 ล้านคัน ส่งซิกภายในไตรมาส 2/2561 สรุปผู้เช่าที่ดิน EEC จำนวน 75 ไร่ หวังรับรู้ได้ทันที เปิดทางพันธมิตรร่วมทุนต่อยอดทำธุรกิจ (ที่มาทันหุ้น)

·        ยอดส่งออกรถยนต์เดือนม.ค.-ก.พ.เริ่มกลับมาเติบโต 3% สู่ 184,284 คัน โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตั้งเป้าการส่งออกปีนี้ทรงตัวที่ 1.1 ล้านคัน

·        FSMART ลั่นแบงก์ยกเลิกค่าธรรมเนียม ไม่กระทบธุรกิจบริษัท เหตุลูกค้าคนละกลุ่มกัน พร้อมชี้เอเย่นต์ตู้บุญเติมได้ประโยชน์ ลดต้นทุน-ประหยัดค่าธรรมเนียมโอนเงิน ย้ำรายได้ปีนี้โต 15-20% เล็งออกแคมเปญใหญ่ดันยอดใช้ตู้บุญเติม (ที่มาข่าวหุ้น

·        TVO (ราคาปิด 34.25 บาท Bloomberg Consensus 40.18 บาท) เดินหน้าอัพกำลังผลิตใหม่ 10% จากเดิม 6 พันตันต่อวัน กรุยทางรับทรัพย์เพิ่ม พร้อมวางเป้าปี 2561 รายได้โตต่อเนื่องจากปีก่อนที่ 2.48 หมื่นล้านบาท รับโชคกากถั่วเหลืองพุ่ง-ดีมานด์เพิ่ม-ค่าเงินบาทแข็ง แย้มออกผลิตภัณฑ์ใหม่ดันมาร์จิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

·        แม้ราคากากถั่วเหลืองล่าสุดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า  3.8% แต่ราคาเม็ดถั่วเหลืองปรับขึ้นเช่นเดียวกันกว่า 2.65% จึงอาจยังไม่มีประเด็นหนุนให้เก็งกำไรในวันนี้ อย่างไรก็ตาม คาดงวด 1Q61 น่าจะมีผลประกอบการที่เติบโตออกมาดี เนื่องจากค่าเฉลี่ย Crush Margin ในงวด 1Q61 ที่ทำ New High และค่าเงินบาทที่แข็งค่า YoY กว่า 10%

·        (+) BEC ผู้บริหารคาดผลประกอบการปี 61 จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากปีก่อนมีกำไรสุทธิเหลือเพียง 61 ล้านบาท ลดลง 85% จากปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากคอนเทนท์รายการทีวีได้รับความนิยมท่วมท้นตั้งแต่ต้นปี แนวโน้มผลประกอบการใน 1Q61 ปรับดีขึ้นแต่ไม่ได้เป็นนัยสำคัญมากนัก เพราะส่วนใหญ่ซื้อโฆษณาล่วงหน้าไว้ ทั้งนี้ รายได้หลักของบริษัทยังมาจากการขายโฆษณา โดยมีสัดส่วนราว 80-90% ปีนี้จะมีรายได้จากธุรกิจใหม่จากการขายลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 มากขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาขายลิขสิทธิ์ให้กับสถานีโทรทัศน์ของจีนและอินโดนีเซีย คาดได้ข้อสรุปภายใน 2Q61 นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านออนไลน์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Mello และเว็บไซด์ Mello.me มาได้ 1 เดือน ขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 1.3 ล้านครั้ง คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 5 ล้านครั้ง (ที่มา อินโฟเควสท์)

·        SSI แปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ดัน 3 แบงก์ใหญ่ 'SCB-KTB-TISCO' ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยถือหุ้นรวมกันกว่า 88.58% หลังได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1 หมื่นล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.05 บาท (ที่มา ทันหุ้น)