ฟอกเงินกรุงไทย เหลือสอบพยานอีกปากเดียว

ฟอกเงินกรุงไทย เหลือสอบพยานอีกปากเดียว

พยานคดีฟอกเงิน “พานทองแท้” ปากสุดท้ายยังเข้าให้ปากคำไม่ครบ ดีเอสไอให้เวลาถึง 30 มี.ค.นี้

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 61. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งมีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน ว่า เดิมพนักงานสอบสวนกำหนดสอบพยานให้เสร็จภายในสิ้นมี.ค. นี้ แต่ล่าสุดต้องขยายการสอบสวนออกไป เนื่องจากพยานบุคคลที่นายพานทองแท้ขอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำยังไม่เข้าให้การ โดยขอเลื่อนมาแล้วถึง 2 ครั้ง เนื่องจากอ้างติดภารกิจสำคัญ ดีเอสไอจึงต้องทำหนังสือแจ้งไปยังพยานให้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในฐานะพยานของฝ่ายผู้ต้องหา โดยกำหนดให้เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ทั้งนี้ ดีเอสไอมีความจำเป็นต้องสอบปากคำพยานที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้ฝ่ายผู้ต้องหาหยิบยกเป็นข้อต่อสู้ว่าสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังสอบปากคำไม่ครบ จึงจำเป็นต้องขอให้พยานเข้าพบโดยเฉพาะพยานปากที่เป็นข้าราชการ

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานตามที่ฝ่ายผู้ต้องหาร้องขอเกือบครบแล้ว เหลือแค่พยานปากอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพียงปากเดียว หากพยานปากดังกล่าวเข้าให้ปากคำแล้ว พนักงานสอบสวนสามารถสรุปสำนวนได้ทันที โดยคดีมีมีกรอบระยะเวลาให้แล้วเสร็จก่อนที่คดีจะครบอายุความในปี 61 นี้