“จักรทิพย์” จวกหัวหน้าหน่วยไม่ดูแลลูกน้อง กรณีสารวัตรสั่งหักเงินตำรวจชั้นผู้น้อยซื้อแอร์ ระบุอยากให้ดูที่เจตนา เพราะเอามาใช้กับส่วนรวม ย้ำวิธีแบบนี้ทำเป็นร้อยโรงพัก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) - เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 29 มีนาคม 2561 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นนท์ขุนทด ผบ.หมู่ สส.สน.พหลโยธิน นำเอกสารเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หลังถูก พ.ต.ต.ชลากร ปานแดง สว.สส.สน.พหลโยธิน และพ.ต.ต.เอกราช โอมาก สว.สส.สน.พหลโยธิน ใช้อำนาจหน้าที่ฯ ในการสั่งหักเงินเบี้ยเลี้ยงจากตำรวจชั้นผู้น้อย จำนวน 11 นาย เพื่อใช้จัดซื้อเครื่องปรับอากาศติดตั้งภายในห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน ว่า เรื่องนี้ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กก็ไม่เล็ก มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ เป็นเรื่องการปกครองภายใน ต้องดูเจตนาของสารวัตรด้วย ว่าเจตนาดีหรือไม่ดี ถ้าเจตนาดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเจตนาไม่ดี ก็ดูไม่ดีว่าไปหักเบี้ยเลี้ยงลูกน้องทำไม
“เรื่องนี้ ผกก.หัวหน้าสถานี ต้องไปดูแลลูกน้องอย่างใกล้ชิดด้วย อะไรที่ขาดเหลือต้องดูแล ไม่ใช่ปล่อยลักษณะเรี่ยไรอย่างนี้ ต้องลงไปแก้ไข อุปกรณ์ขาดเหลือก็ต้องเสนอขอมาในระดับ บก. บช. ตามลำดับแต่ถ้าเหตุเร่งด่วน แอร์เสีย น้ำไม่ไหลเป็นเรื่องปกติ แต่บางทีผู้บังคับบัญชาเด็กๆ อาจอึดอัด สิ่งเหล่านี้พูดจากันได้ในโรงพัก ยิ่งฝ่ายสืบสวนมีไม่กี่คน สามารถพูดจากันได้ ไม่ควรจะไปที่หน่วยอื่น จริงๆก็แล้วแต่ ผมไม่ได้ปกป้องใคร แต่ผมอยากให้มองดูที่เจตนา ถ้าทุกคนเห็นว่าแอร์เสีย เอามาใช้ส่วนรวม ไม่ได้เอาไปติดที่ห้องสารวัตรคนเดียว หรือห้อง ผกก. อย่างนี้จะคิดกันอย่างไร หากเอาไปใช้คนเดียวก็ถือว่าไม่ถูกเรื่อง” ผบ.ตร.กล่าว
เมื่อถามว่า ผบ.ตร.มีความเห็นว่า ไม่ควรไปร้องที่ ป.ป.ท. ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชามีตั้งหลายระดับชั้น ที่จะให้ความเป็นธรรม ตั้งแต่ ผกก. รอง ผบก. ผบก.น.2 หรือไปที่ บช.น.ก็ได้ ผู้บังคับบัญชาจะได้รับรู้ปัญหาด้วย การร้องทุกข์ ร้องเรียนต่อหน่วยอื่นจะมีความผิดตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ให้ผู้บังคับบัญชาในนครบาลไปว่ากันไป ที่ตนบอกมันไม่ใช่เรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ มองเป็นเรื่องปกติก็ได้
เมื่อถามว่า การเรี่ยไรเงินในสถานีตำรวจแบบนี้ เป็นเรื่องปกติ ธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อย่าไปเรียกว่าเรี่ยไรเงิน แต่อะไรที่มันเสีย ต้องซ่อมแซมให้ใช้ได้ โดยไม่สามารถรองบประมาณปกติ ก็ต้องดำเนินการไป ตนเชื่อว่ามีอยู่หลาย 100 โรงพักที่ดำเนินการลักษณะแบบนี้ ตำรวจในโรงพักช่วยกันระดมทุนแบบนี้ต้องขึ้นอยู่กับหัวหน้าหน่วย บริหารจัดการและทำความเข้าใจ เรื่องนี้ตนขอพูดในภาพรวม แต่ก็จะสั่งให้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เข้าไปดูแล ลักษณะแบบนี้จะเป็นอุทาหรณ์ ก็ขยายความไปในโซเชียลมีเดีย มีการแสดงความคิดเห็นต่างๆนานา ขยายความไปเรื่อยๆ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ตำรวจที่เป็นผู้ไปร้องเรียน อาจจะรู้สึกผิด อึดอัดในการอยู่ในโรงพักก็เป็นเรื่องที่ ผบช.น. ต้องไปจัดการ อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เกิดความแตกแยก แตกความสามัคคี หน่วยมีกฎระเบียบอยู่แล้ว เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาต้องเอาใจใส่ ตนเน้นย้ำตลอดเรื่องการใช้งบประมาณ เรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด ว่าการเรี่ยไรของผู้บังคับบัญชา เป็นการสมัครใจหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้ย้ำว่าตนไม่ก้าวก่าย แต่หากตำหนิ ต้องตำหนิหัวหน้าหน่วย ไม่ตำหนิเด็กอยู่แล้ว
ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในการปฏิรูปตำรวจ ต้องการพูดคุยถึงประเด็นเรื่องนี้ในหมวดของสวัสดิการ รัฐบาลนี้ดูแลเต็มที่ในเรื่องงบประมาณ คุรุภัณฑ์ในการทำงาน แล้วคิดที่จะให้ตำรวจทำแบบทหาร ตัวของผู้การกรม ผู้พัน เวลาย้ายไปไหนไม่ต้องย้ายโต๊ะย้ายเก้าอี้ย้ายแอร์ เหมือนตำรวจ วันนี้ตำรวจย้ายทีก็โกลาหล ต้องขนทุกอย่างไปด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เล็งเห็นตรงนี้ ดูว่าจะทำอย่างไรให้ตำรวจเป็นแบบทหารได้หรือไม่ เวลาไปทำงานไปแต่ตัวก็ทำงานได้ ไม่ต้องขนทุกอย่างของส่วนตัวไปเอง