ก.อุตฯ เปิดศูนย์ ITC และศูนย์ออกแบบ ตรวจสอบอุตฯ อาหาร
ก.อุตสาหกรรม เปิดศูนย์ ITC และศูนย์ออกแบบ ตรวจสอบอุตฯ อาหาร พร้อมเยี่ยมชมศูนย์บ่มเพาะธุรกิจอุตสาหกรรม ภาคใต้ จ.สงขลา
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (Industry Transformation Center : ITC) พร้อมเปิดศูนย์การออกแบบและตรวจสอบอุตสาหกรรม (สาขาอาหาร) ต้นแบบ สถาบันอาหาร สถาบันเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม และเยี่ยมชมศูนย์บ่มเพาะธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมพูดคุยกับผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเปิดศูนย์ ITC สงขลา และนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 จังหวัดสงขลา
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดศูนย์ ITC ว่า ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) เป็นกลไกประชารัฐที่ผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ การวิจัยพัฒนา และบุคลากรระดับโลกในการเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจเชิงนวัตกรรมและสร้างสรรค์ โดยอาศัยแพลทฟอร์มที่จะผลักดันให้บริษัทผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก (Global Player) รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ (LEs) ที่มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอยู่แล้วมามีส่วนร่วมในการทำให้ SMEs ขับเคลื่อนนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ โดยศูนย์ฯ เปรียบเสมือนกับข้อต่อกลางที่จะเข้ามาช่วย SMEs ที่ไม่พร้อมในเรื่องของบุคลากรด้านวิศวกรรมที่ยังต้องสั่งสมประสบการณ์ และเครือข่ายที่สนับสนุนการผลิตให้สามารถปฏิรูปธุรกิจของตนเองผ่านกระบวนการ SME Transformation ตามแพลทฟอร์มต่างๆ ที่เหมาะสม พร้อมกันนี้ยังมีหน้าที่ในการร่วมพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมและงานวิจัยให้ไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูง
โดยเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์และคัดเลือกผลิตภัณฑ์ การให้บริการทางวิศวกรรม การหาผู้รับจ้างผลิต ทำการทดสอบและรับรองมาตรฐาน การทดสอบตลาด ซึ่งเปรียบได้กับผู้ช่วยทางวิศวกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ประกอบการ บ่มเพาะให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาและดำเนินธุรกิจได้เอง มีการแลกเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์จากเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐมาให้บริการแก่ผู้ประกอบการให้ค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง โดยที่ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องไปลงทุนเครื่องจักรก่อนที่จะได้ผลิตภัณฑ์ และยังมีความช่วยเหลือต่าง ๆ ผ่านโครงการของภาครัฐ รวมถึงสินเชื่อพิเศษต่างๆ อย่างมากมายอีกด้วย
สำหรับศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม หรือ ศูนย์ ITC ภาคที่ 11 จ.สงขลา มีหน้าที่ในการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา สตูล ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส จะดำเนินงานให้บริการในเรื่องต่างๆ อาทิ การเป็นศูนย์บริการด้านข้อมูลของผู้ประกอบการ เพื่อการเชื่อมโยงจับคู่ทางธุรกิจ, การบริการให้คำปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาตามประเด็นความต้องการของผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งการออกแบบ การบริหารจัดการ การจัดหาแหล่งทุนและเครื่องมือทางด้านการเงินต่างๆ การให้บริการเครื่องมือและอุปกรณ์ ทั้งเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพวัตถุดิบ เครื่อง 3D Printing 3D Scanning เพื่อการต่อยอดนวัตกรรมและงานวิจัยไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูง การให้บริการด้านวิศวกรรม การจัดหาผู้ผลิต ทำการทดสอบและรับรองมาตรฐาน การทดสอบตลาด เพื่อบ่มเพาะให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาสินค้าและดำเนินธุรกิจได้เอง โดยมีการแบ่งปันเครื่องจักรอุปกรณ์จากเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐมาให้บริการแก่ผู้ประกอบการเพื่อเป็นการลดต้นทุนการประกอบกิจการ
ล่าสุด ทางศูนย์ ITC ภาคที่ 11 ได้มีการติดตั้งเครื่องนึ่งสุญญากาศ เครื่องจักรที่ทันสมัยและเป็นเทคโนโลยีล่าสุด คือ มีการนำเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ซึ่งเป็นการพัฒนาซอฟท์แวย์โดย บริษัท ฟู้ด แมชชินเนอรี่ จำกัด ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องจักรในกระบวนการแปรรูปอาหารอันดับหนึ่งของไทย เพื่อให้บริการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาแก่ผู้ประกอบการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เข้ามาติดตั้งและให้บริการภายในศูนย์เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) ภาคที่ 11 จังหวัดสงขลา ยังมีการดึงเอาหน่วยงานเครือข่ายมาร่วมดำเนินการในพื้นที่อีกด้วย ได้แก่ สถาบันอาหาร (National Food Institute) ซึ่งให้บริการด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การทดสอบ ตรวจสอบคุณค่าทางโภชนาการและการปนเปื้อนต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารไทย โดยเฉพาะ SMEs กลุ่ม Starup และกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาและพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มแก่วัตถุดิบทางการเกษตรในท้องถิ่น รวมถึงมีทีมที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการ หรือ SMEs ที่มีความต้องการในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สินค้าประเภทอาหารแปรรูปมากกว่า 10 ชนิด ที่มีความต้องการและสามารถผลักดันให้เป็นสินค้า OTOP ส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศได้