'ภาวุธ' เปิดใจเจรจา 'ช้าง' 1 ปี ก่อนจบดีลประวัติศาสตร์

'ภาวุธ' เปิดใจเจรจา 'ช้าง' 1 ปี ก่อนจบดีลประวัติศาสตร์

"ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com เปิดใจเจรจาค่ายช้าง "เจ้าสัวเจริญ" 1 ปี ก่อนจบดีลประวัติศาสตร์

"ป้อม" หรือ "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com บอกกล่าวผ่าน Facebook Pawoot Pom Pongvitayapanu ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังถึงการตัดสินใจขายหุ้น 51% ให้กับ TSpace Digital (ทีสเปซ ดิจิตอล) ธุรกิจในเครือ TCC Group ของเจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งมีการเซ็นสัญญาและเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา

ปี 2018 อีกก้าวที่สำคัญของผม และ TARAD.com ที่หลังจากผมซื้อ TARAD.com คืนมาจาก Rakuten ทั้งหมดในช่วงปี 2016 ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับผมมาก เพราะธุรกิจของ TARAD ในขณะนั้นขาดทุนสะสมหลายร้อยล้านบาท และยังมีเงินขาดทุนต่อเดือนหลายล้านบาท ทำให้หลังจากซื้อคืนกลับมา ผมต้องนำเงินของตัวเอง ใส่เข้าไป เพื่อหล่อเลี้ยงให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ตลอดปี 2016-2017 จนคนรอบๆ ตัวต่างกังวลว่า ทำไมถึงตัดสินใจถึงซื้อกลับมา? ซื้อกลับมาทำไม? จะเดินต่อไปยังไง?

เดินสายหาทุนใหม่สู้ยักษ์ Alibaba

ตอนแรกผมคิดว่า เมื่อผมซื้อกลับมา จะมีหลายๆ บริษัทอยากเข้ามาลงทุนใน TARAD.com ต่อจาก Rakuten เพราะด้วยตอนนั้น TARAD.com ยังเติบโต และเป็น Top 3 E-Commerce ของไทย โดยหลังจากซื้อกลับมา ผมประกาศหยุดการทำโฆษณา Marketing ทุกอย่าง หยุดการใช้เงินในบริษัท ไม่เพิ่มคน เพื่อลดการขายทุนของบริษัทอย่างเร่งด่วน และผมเองก็ผมเดินสายหานักลงทุนใหม่ตลอดปี 2016 คิดโมเดลทางธุรกิจที่หลากหลายมากๆ เพื่อที่จะหลบออกจาก Marketplace ที่ต้องไปชนกับยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และเจ้าอื่นๆ เช่น จะแยกออกเป็นบริษัท Startup เล็กๆ แล้วหานักลงทุนมาลง หรือ ติดต่อกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่สนใจจะลงทุนใน E-Commerce ผมพบกับบรรดาบริษัทห้างสรรพสินค้าของไทยครบแทบทุกเจ้า บริษัทขนาดใหญ่ของไทยมากมาย ซึ่ง ณ.เวลานั้น E-Commerce โดยเฉพาะโมเดลธุรกิจ Marketplace มันไม่หอมหวลอีกต่อไปแล้ว เพราะการมาของ Alibaba ที่เข้าซื้อ Lazada หลังจากนั้นไม่นาน ทำให้นักลงทุนทั้งหลายต่างพากัน ปฏิเสธการเข้าลงทุนใน TARAD.com

pa1

“เครียด-ท้อ” สภาพคล่องขาดมือพอผ่านไปนานเข้า เวลาที่ผ่านไป เม็ดเงินที่ผมต้องใส่เข้าไปหล่อเลี้ยงบริษัทให้อยู่รอดก็เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายสิบล้านบาท ต้องยอมรับว่าช่วงนั้นเครียดและท้อมากๆ เพราะตอนนั้นพูดจริงๆ ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะ พาบริษัทไปทางไหนดี? มีจิตตกอยู่ไปช่วงใหญ่ๆ เลยทีเดียว ถึงขนาดว่าช่วงนั้นไม่ค่อยอยากเข้าออฟฟิสเลยทีเดียว หยุดอยู่บ้านเฉยๆ หัวสมองไม่วิ่ง ฝันร้าย ตื่นมากลางดึกแล้วนอนต่อไม่ได้ ถือว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายช่วงนึงของชีวิตเลยทีเดียว ในช่วงเวลานั้น…

โอกาสมาถึงพบคุณหนุ่ม “ฐาปน” และในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสพบพี่มารุต ผู้บริหารของโออิชิ (ในสมัยนั้น) ได้มีโอกาสพูดคุยและพี่เค้าได้พาผมเข้าพบกับคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี หรือคุณหนุ่ม ผู้บริหารใหญ่ของเครือ ThaiBev หรือลูกชายคนโตของคุณเจริญ ในวันที่ 9 มค. 2017 ผมได้อธิบายถึงความล่มสลายของธุรกิจ E-Commerce ของไทย และการที่ธุรกิจประเทศไทยจะเติบโตต่อไปได้อย่างไรในกระแสอันเชี่ยวกราดของ การมาของยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน คุณหนุ่มสนใจที่จะสนับสนุนคนไทย ธุรกิจไทย และในที่สุดเราก็ได้เริ่มต้นการคุยในการศึกษา ความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุน โดยได้ลงนามตกลงการร่วมธุรกิจกันในวันที่ 25 พค. 2017 ที่ รร.โอกุระ Park Venture กับคุณหนุ่ม ฐาปน เจรจา 1 ปี ทุกอย่างลงตัว

หลังจากนั้นเราใช้เวลาเกือบ ปีกว่าในการดำเนินการดีล จนมาถึงวันที่เราประกาศความร่วมมือในวันนี้ (27 มีนาคม 2018) โดยทาง TCC ได้จัดตั้งบริษัท TSpace Digital นำโดยพี่มารุต CEO มาลงทุนใน TARAD.com และ TARAD.com เองได้ย้ายจากสำนักงานตึกตรงรัชดาภิเษก 28 มาที่ตึก CW Tower ของในกลุ่ม TCC ในต้นปี 2018 และเราเองก็เริ่มสร้างความร่วมมือในหลายๆ โครงการในกลุ่ม ThaiBev, Oishi และบริษัทอื่นๆ ภายในเครือ

ผมอาจจะเป็นคนทำธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ยอมถอย มองโลกในแง่ดี และคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ จึงทำให้ TARAD.com ถึงอยู่ยืนหยัดมาถึงเกือบ 20 ปี และขยายการลงทุนบริษัทไปเป็นสิบ โดยที่ผ่านมามีทั้งคนมาลงทุนจากกลุ่ม MONO หรือจะโดนหลายๆ บริษัทจะซื้อกิจการไป จนมาถึงโดน Rakuten ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นมาซื้อกิจการ และสุดท้ายผมก็ไปซื้อกิจการกลับมา และลากจนมาถึงการมีนักลงทุนกลุมีใหม่อย่าง TCC Group ทั้งหมดนี้ มันอยู่กับ Passsion ในการทำธุรกิจล้วนๆ ครับ …

ความสำเร็จต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน

ดูภายนอกผมอาจจะดูเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จที่ได้มา มันแลกมากับอะไรหลายๆ อย่างที่ผมทุ่มเทมาตลอดหลายปี ความหลงไหลใน E-Commerce การอยากให้ประเทศไทยเติบโตไปด้วยดีด้วยเทคโนโลยีฝีมือของเรา ผมไม่เหนื่อยนะ แต่กลับสนุกมากกว่ากับสิ่งที่ทำ สิ่งที่ได้สร้างมาเกือบตลอด 20 ปี เช่น หลายๆ สมาคมทีได้สร้างขึ้นมา งานโครงการต่างๆ ที่ได้ช่วยประเทศไทย การทำงานร่วมกับภาครัฐ เอกชน องค์กรต่างๆ สร้างเด็กรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาให้กับอุตสาหกรรมไอทีของไทย เดินสายสอนผู้ประกอบการทั่วประเทศไทย… ได้มีเวลามองย้อนกลับไปก็อดภูมิใจในสิ่งที่เราทำครับ

จากนี้ไปน่าจับตาอย่างยิ่งว่า ป้อม หรือ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กูรูอีคอมเมิร์ซของไทย ภายใต้ร่มเงา เจริญ ศิริวัฒนภักดี จะนำพา Tarad.com ไปถึงไหน