เจ้าของธุรกิจรถเช่าร้องดีเอสไอ สอบแก๊งเชิดรถหรูไปจำนำ

เจ้าของธุรกิจรถเช่าร้องดีเอสไอ สอบแก๊งเชิดรถหรูไปจำนำ

เจ้าของธุรกิจรถเช่าร้องดีเอสไอช่วยตามรถหรู 2 คันถูกมิจฉาชีพเช่าไปจำนำ. เสียหายกว่า 7 ล้านบาท เผยแจ้งความตำรวจแล้วแต่คดีไม่คืบ หวั่นเชื่อมโยงคนมีสี


เมื่อวันที่ 28 มี.ค.61 นางพัชรินทร์ ยิ้มแย้ม เจ้าของธุรกิจรถเช่า ยื่นหนังสือต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบขบวนการหลอกเช่ารถยนต์แล้วนำไปส่งมอบให้นายทุน โดยมีนายทัชชกร อรรณพเพ็ชร ผอ.ส่วนบริการระบบคดีพิเศษ. เป็นผู้รับเรื่อง

นางพัชรินทร์ กล่าวว่า เมื่อเดือนก.ย. 60 ตนทำธุรกิจรถเช่า มีรถประมาณกว่า 10 คัน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นรถที่มีราคาสูง 2 คัน คือ รถยนต์บีเอ็ม ดับบลิว รุ่นเอ็กซ์ 1 สีขาว ทะเบียน ฆย.5168 และรถยนต์เบนซ์ ซีคลาส 180 สีขาวทะเบียน 2 กษ 7788 โดยมีผู้ติดต่อขอเช่ารถพร้อมกันทั้ง 2 คัน เป็นระยะเวลา 1 เดือน แต่พอครบกำหนดนัดผู้เช่าไม่ยอมส่งมอบรถคืน จึงได้สอบถามไปยังผู้เช่า โดยผู้เช่าได้ขอเช่ารถต่ออีก 1 เดือนพร้อมทั้งโอนเงินค่าเช่ามาให้อีก 1 เดือน หลังจากได้รับค่าเช่าแล้วจึงเริ่มติดตามรถด้วยการให้ผู้เช่านำรถเข้ามาเช็คระยะพร้อมทั้งติดตามสัญญาณจีพีเอสของรถทั้ง 2 คัน

ต่อมาวันที่ 14 พ.ย.จึงตามพบว่ารถเบ็นซ์จอดอยู่บริเวณข้างสภ.บางบัวทอง ส่วนรถบีเอ็มดับบลิวจอดอยู่ที่หน้าบ้านของนายเม้ง อ.บางบัวทอง จนกระทั่งเมื่อ 4 ธ.ค มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ติดต่อมายังตนเพื่อให้ไปแสดงตนว่าเป็นเจ้าของรถทั้ง 2 คัน เนื่องจากผู้เช่าได้ไปแจ้งความกับกองปราบว่าถูกเพื่อนขโมยรถไป และได้รับในภายหลังว่า รถยนต์ทั้ง 2 คันถูกผู้เช่าเอาไปจำนำกับนายเม้ง

นางพัชรินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากทราบข้อเท็จจริงแล้วตนจึงเข้าแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง และสภ.เมืองสระบุรี แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงอยากขอความเป็นธรรมโดยขอให้ดีเอสไอเข้าไปสอบสวนเนื่องจากเชื่อว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ เพราะผู้ประกอบการรถเช่าหลายรายก็ถูกกกระทำในลักษณะนี้ โดยมีผู้คนมีสีอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่มีใครกล้าออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของกลุ่มคนมีสี สำหรับมูลค่าความเสียหายของตนในขณะนี้มากกว่า 7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากผู้เช่านำรถมาคืนตนก็พร้อมจะถอนแจ้งความ