MORNING CALL ACTION NOTES (28 มี.ค.61)

MORNING CALL ACTION NOTES (28 มี.ค.61)

อ่อนตัวตามเพื่อนบ้าน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ Sideway แดนบวกช่วงเช้าก่อนอ่อนตัวช่วงบ่าย ท่ามกลางความผ่อนคลายความกังวลสงครามการค้าหลังจีนมีท่าทีเจรจา ขณะที่ในประเทศมีทั้งแรงเก็งกำไรจากกลุ่ม BANK และ ICT ทั้งลบและบวกจากการปลดล๊อค NVDR ของ BBL และการชะลอใช้ ม.44 ขยายระยะเวลา แต่โดยรวม SET หนุนโดย FOOD และ xx จากปัจจัยรายตัว ส่วน ICT มาหักล้าง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,802.58 จุด (+1.48 จุด) Volume 6.07 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -40.65 ลบ.  TFEX Net +9,852 สัญญา ตราสารหนี้ +4,459.59 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนม.ค.

- ดาวโจนส์ปิดร่วงเนื่องจากหลังจากมีรายงานว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) กำลังเดินหน้าสอบสวนบริษัทเฟซบุ๊กในกรณีข้อมูลผู้ใช้บริการรั่วไหลจำนวน 50 ล้านคน

- น้ำมันดิบปิดลบโดยได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามโอเปก,รัสเซียเตรียมทำข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมันในช่วง 10-20 ปีข้างหน้า

- ประธานเฟดคลีฟแลนด์หนุนขึ้นดอกเบี้ย ชี้สงครามการค้ามีความเสี่ยง แต่ไม่กระทบมุมมองเศรษฐกิจ

-ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 127.70 ในเดือนมี.ค.

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 5.65 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.19 บาท/USD

**28 มี.ค. กำหนดประชุมกนง. คาดจะมีมติคงอัตราดบ.ที่ระดับเดิม 1.5%

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยลบตลาดต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลง รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับลดลง และ Fund Flow ผันผวน บดบังปัจจัยบวกภายในประเทศที่ครม.มีมติอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่วานนี้ คาด SET จะอ่อนตัวลงในกรอบ 1,790-1,809 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- GPI KKP TISCO TCAP หุ้นได้ประโยชน์จากงานมอเตอร์โชว์

- CENTEL TOP TMB CPN ROBINS คาดเป็น target ทำ window dressing

- GFPT TFG จีนรับรองมาตรฐานโรงงานผลิตไก่ไทย

- CENTEL ERW ได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19% ในเดือนก.พ.

- หุ้นปันผลเด่น BAFS CRD FTE GLOW KKP NYT SIS SPRC TISCO QH PDI PL AIT AP KIAT

- หลีกเลี่ยงกลุ่มยางพาราและกลุ่ม NGV ราคายางพาราปรับตัวลง 10%MTD สู่ 167เยน/KG / ยอดใช้ NGV หดตัว 5.8% ใน 1Q61

หุ้นแนะนำพิเศษ

กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม

  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดว่าในปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 63 ล้านคน +9.16%YoY และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.14 ล้านล้านบาท +17.37%YoY ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วง 1Q61 เท่ากับ 101 อยู่ในระดับปกติ คาดดัชนีความเชื่อมั่นฯในช่วง 2Q61 จะเท่ากับ 100 ซึ่งเป็นการคาดการณ์ในระดับปกติอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการมีการปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการในไตรมาสหน้า และบางส่วนวางแผนปรับเพิ่มราคาสินค้าพร้อมกับการเพิ่มการจ้างงานและการลงทุน
  • การที่นักท่องเที่ยวเติบโตโดยเฉพาะชาวจีนส่งผลบวกต่อ CENTEL (ราคาปิด 48.25 Bloomberg Consensus 55.22) ซึ่งมีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชียและยุโรปในสัดส่วน 38% และ 31% ตามลำดับ ขณะที่ ERW (ราคาปิด 7.80 Bloomberg Consensus 9.57) จะได้ผลบวกรองลงมาเพราะมีลูกค้าเอเชีย 31%

หุ้นมีข่าว   

·         ประเด็นลบหุ้นกลุ่มสื่อสาร-ทีวีดิจิตอล : เลขา กสทช.เผย คสช.เบรกออก ม.44 ผ่อนผันทีวีดิจิทัล-คลื่น 900 รอทบทวนอีกครั้งหลัง TDRI เห็นค้าน

·        (+) วันนี้ TRC ลงนามตั้งกิจการร่วมค้า “TRC-SINOHYDRO” เพื่อแต่งตัวรอรับงานเหมืองโปแตชที่ชัยภูมิ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท (ที่มาข่าวหุ้น)

·        ประเด็นบวกรับเหมา TOP PICK CK (ราคาปิด 24.00 Bloomberg Consensus 32.16)  “ครม.” ไฟเขียวโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน 2.2 แสนล้านบาท อีกทั้งรมว.คมนาคมเตรียมชงรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายสีแดงเข้ม-อ่อน วงเงินรวมกว่า 1.29 แสนล้านบาท เข้าบอร์ด “สศช.” พ.ค.นี้ หากไฟเขียวเตรียมส่งต่อครม.ขออนุมัติทันที (ที่มาข่าวหุ้น)   

·        กลุ่มโทรคมนาคม : คสช.ชะลอ ม.44 ช่วยเหลือ ค่ายมือถือคลื่น 900 MHz โดยการเปลี่ยนการจ่ายค่าประมูลงวดสุดท้ายรวดเดียวกลายเป็นการทยอยจ่ายใน 5 ปี และคิดดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี โดยจะพิจารณาใหม่ในอีก 1 สัปดาห์ โดยมี TDRI คัดค้านให้ชะลอ จากทั้งความเห็นต่อผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่น่าจะได้พิจารณาแล้วว่า ราคาที่ประมูลได้ไปนั้นมีความคุ้มค่า และการจ่ายเป็นงวด 4 งวดตามที่กำหนดเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ รวมทั้งเงื่อนไขการประมูล ที่ระบุว่าการจ่ายค่าประมูลล่าช้านั้น ต้องคิดดอกเบี้ยถึง 15% ต่อปี (ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ)

·        ความเห็น เนื่องจากช่วงก่อนหน้า ที่เริ่มมีความคาดหวังต่อการขยายระยะเวลาการชำระค่าบริการใบอนุญาตดังกล่าว (ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค. 60) ราคาหุ้นของทั้ง ADVANC และ TRUE ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 11% และ 18% ตามลำดับ การชะลอเวลาดังกล่าว คาดเป็นผลลบต่อราคาหุ้น กล่าวคือ อาจมีการ Switch มาที่ DTAC เนื่องจากล่าสุด กฤษฎีกาเปิดโอกาสให้ กสทช.ชุดรักษาการสามารถดำเนินการเปิดประมูลคลื่น 900 – 1800 MHz ได้ และยังมี Upside ให้รอเก็งกำไรจาก สำนักงานอัยการสูงสุดที่เตรียมรับรองการเข้าทำดีลระหว่าง TOT และ DTAC จึงแนะนำ “ขายทำกำไรระยะสั้น” หุ้นที่มีการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า คือ TRUE (BB Consensus 7.24 บาท) และ “ทยอยซื้อสะสม” DTAC (BB Consensus 52.34 บาท)  ที่ราคาหุ้นยัง Laggard คือในช่วงเวลาเดียวกัน ยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

·        (+) BBL (ราคาปิด 202 Bloomberg Consensus 232.73)ไทยเอ็นวีดีอาร์ แจ้งยกเลิกการงดการลงทุนสำหรับหลักทรัพย์อ้างอิง BBL โดยสามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 27 มี.ค. 61 เป็นต้นไปเนื่องจากตรวจสอบแล้วเห็นว่าไม่ติดข้อจำกัดการถือหุ้น

·        ความเห็น เป็นประเด็นบวกทางจิตวิทยา  ทั้งนี้ BBL เป็นแบงก์ขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้มีความต้องการสินเชื่อเร่งตัวขึ้น ทั้งนี้ในช่วง 2M61 สินเชื่อหดตัว 1.7%YTD แต่ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 0.96 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ซื้อขายที่ระดับ 1.24 เท่า  จึงแนะนำซื้อ

·        (+) PLANB คาดผลประกอบการ 1Q61 จะทำสถิติสูงสุดใหม่หลังจากประเมินอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณา (Utilization rate) สูงขึ้นเป็น 70-75% จากระดับ 65-70% ในปีก่อน เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และพื้นที่การโฆษณาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง บริษัทคาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะปรับเพิ่มเป็น 18-20% จากปีก่อนที่ 15.27% เนื่องจากอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาถือหุ้นในบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด เพิ่มเป็น 28% จากเดิม 19.48% คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้ (ที่มา อินโฟเควสท์)