ส่งสำนวนคดี 2 ป้าทุบรถ ให้อัยการแล้ว

ส่งสำนวนคดี 2 ป้าทุบรถ ให้อัยการแล้ว

ตำรวจ สน.ประเวศ ส่งสำนวนคดี 2 ป้าทุบรถ ฟ้องต่อพนักงานอัยการจังหวัดพระโขนงแล้ว ขณะที่ทนายความโวย ตำรวจแจ้งข้อหาไม่ตรงตามความจริง ระบุไม่ได้พกพาอาวุธข่มขู่

จากกรณีสื่อโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์หญิงสูงวัย 2 คน ใช้ขวานและเหล็กยาวทุบทำลายรถยนต์ที่จอดขวางบริเวณประตูทางออกหน้าบ้านหรูหลังหนึ่ง ย่าน ซ.หมู่บ้านเสรีวิลล่า แยก 2 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ทำให้รถยนต์คันดังกล่าวได้รับความเสียหาย กระจกข้างรถฝั่งด้านหลังผู้โดยสารแตกฝากระโปรง และกันชนรถได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2561

ต่อมาวันที่ 5 มี.ค. 2561 ที่สน.ประเวศ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ หรือป้าเก่ง อายุ 61 ปี ผู้ถือเสียมในคลิปสองป้าทุบรถ พร้อมด้วยน.ส.มณีรัตน์ แสงภัทรโชติ อายุ 57 ปี ผู้ถือขวานในคลิปดังกล่าว ได้เดินทางมารับทราบข้อหา 3 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทั้งคู่ได้ให้การปฏิเสธทั้ง 3 ข้อหานั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยความคืบหน้าคดี 2 ป้าทุบรถว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนในคดีที่ น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา อายุ 37 ปี ผู้ขับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากการทุบรถที่จอดขวางหน้าบ้านที่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ปรากฎตามคลิปที่ได้ใช้ขวานและท่อนเหล็กทุบรถจนได้รับความเสียหาย ได้ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการจังหวัดพระโขนงแล้ว

พ.ต.อ.อลงกรณ์ เปิดเผยด้วยว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.รัตนฉัตร และน.ส.มณีรัตน์ ได้แจ้งความในข้อหาตามมาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ กับน.ส.รชนิกร เลิศวาสนา อายุ 37 ปี ผู้ขับรถยนต์ที่จอดขวางทางเข้า-ออก บ้านเลขที่ 37/208 ซ.ศรีนครินทร์ 55 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ นั้น ทางน.ส.รชนิกร ยังไม่ได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้ขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วจะเข้าพบพนักงานสอบสวนในเร็วๆ นี้

ด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางไปที่อัยการพิเศษกรุงเทพใต้ เพื่อยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมให้กับน.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และน.ส.มณีรัตน์ แสงภัทรโชติ อายุ 57 ปี ในกรณีที่มีการแจ้งข้อหาไม่ตรงตามความจริง เช่น เรื่องของการพกพาอาวุธ การข่มขู่ ภายในคลิปจะเห็นได้ว่าทาง น.ส.รัตนฉัตร ซึ่งได้ถือเสียม ไม่ได้ถืออาวุธใช้ในการข่มขู่ เพราะมีการนำเสียมไปวางไว้ก่อนจะหยิบกล้องถ่ายภาพมาบันทึกภาพเหตุการณ์ ทั้งนี้ หากป้าทั้ง 2 คน ผิดในส่วนไหนก็ให้ดำเนินการไปตามที่ผิดเท่านั้น

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการล่ารายชื่อเพื่อขอเปิดตลาดบริเวณใกล้เคียงบ้านป้าที่มีข้อพิพาทขึ้นนั้น ทางนายอนันต์ชัยมองว่าเป็นเพียงการสร้างกระแสขึ้นมา เพราะทางพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ออกมาบอกแล้วว่า มีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าข่ายมีความผิด รวมทั้งสิ้น 15 ราย ในเรื่องของการเปิดตลาดโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะฉะนั้นการจะเปิดตลาดรอบบ้านป้าเป็นเรื่องผิด