2 แม่ลูก เล่าวินาทีรอดชีวิตจากรถทัวร์มรณะ

2 แม่ลูก เล่าวินาทีรอดชีวิตจากรถทัวร์มรณะ

“สองแม่-ลูก” รอดชีวิตจากรถบัสมระ เล่าถึงการเอาตัวรอดจากเหตุครั้งนี้ หลังช่วยแม่ออกจากรถคว้าโทรศัพท์ติดต่อญาติ

เมื่อวันที่ 24 มี.ค.61 จากกรณีรถบัสนำเที่ยวของชาวบ้านจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ประสบอุบัติเหตุบริเวณวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้รอดชีวิตหนึ่งในนั้นคือมารดา และบุตรสาวได้เปิดเผยวินาทีเอาตัวรอดจากรถทัวร์คันดังกล่าว

นางอารี เศษวงค์ ผู้รอดชีวิต เปิดเผยว่า ตนไม่เคยไปเที่ยวทะเลแต่บุตรสาวอยากไปเที่ยว จึงตัดสินใจไปเที่ยวกับทัวร์ในครั้งนี้ โดยบรรยากาศก็ไม่ค่อยสนุกอย่างที่คิดไว้ ช่วงเดินทางกลับใกล้ถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางคดเคี้ยวเวลาประมาณ 20.00 น. คนบนรถกำลังร้องเพลงอย่างสนุกสนาน ตนสังเกตได้ว่าคนขับรถขับมาด้วยความเร็วคล้ายกับแกล้งยิ่งคนบนรถทัวร์สนุกกันมากเท่าใดยิ่งเหยียบคันเร่ง ตนกับลูกสาวนั่งอยู่ตรงกลางชั้นสองของรถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุ เมื่อรู้ว่ารถขับมาด้วยความเร็วตนก็มีการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา เมื่อได้ยินเสียงคนจัดนำเที่ยวตะโกนขึ้นมาว่ารถเบรกแตกตนกับบุตรสาวก็มานั่งกอดกันตรงทางเดิน เมื่อนั่งลงไปไม่นานรถก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ จากนั้นก็ได้ยินเสียงบุตรสาวปลุกจึงรู้สึกตัว แล้วบุตรสาวจึงช่วยชีวิตดึงตนออกมาจากรถ หลังเกิดเหตุตนก็ลุกขึ้นเดินได้ไปนั่งพักอยู่บนโหดหินกับบุตรสาว สักพักก็รู้สึกปวดหลังและไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก

ด้านเด็กหญิงสุพิศรา อายุ 14 ปี ผู้รอดชีวิตที่ช่วยแม่ออกมาจากรถทัวร์ เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ตนไปเที่ยวในครั้งนี้ เนื่องจากตนไม่เคยไปเที่ยวทะเล จึงอยากไปแต่กลับไม่สนุกอย่างที่คิดไว้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุอันเลวร้ายตนจำได้ว่ารถขับมาด้วยความเร็ว จากนั้นคนนำเที่ยวจึงลงไปถามคนขับรถ ได้คำตอบว่าเบรกแตก จึงตะโกนบอกคนบนรถทัวร์ สักพักตนก็มีกลิ่นไหม้คลุ้งในรถ จึงวิ่งไปหาแม่แล้วเก็บของทั้งโทรศัพท์กระเป๋าและสิ่งของสำคัญไว้กับตัว สาเหตุที่เลือกคว้าสิ่งของสำคัญไว้กับตัว เพราะเมื่อเกิดเหตุจะได้สามารถระบุตัวตนได้และไว้ติดต่อกับญาติ

จากนั้นมารดากับตนจึงกอดกันแล้วหมอบลงบนทางเดิน โดยมารดากอดให้ตนอยู่ข้างล่าง ระหว่างนั้นก็เรียกชื่อยายไปได้ 2 ครั้ง เพราะยายเป็นคนที่นึกถึงเป็นคนแรก จากนั้นรถก็เกิดอุบัติเหตุ ตนจึงโทรศัพท์หาป้าคือนางทรรศนีย์ เศษวงค์ เพราะเป็นคนติดต่อได้เพียงคนเดียวในบ้าน และระหว่างนั้นตนเห็นผู้เสียชีวิต 4 รายที่เสียชีวิตต่อหน้า หลังจากที่ตนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครราชสีมาและย้ายมาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พบว่ามีกระดูกร้าวที่บริเวณแขนซ้ายใส่เฝือก และมีบาดแผลบริเวณขาจากเศษกระจกรถบาด ซึ่งขณะนี้คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนมารดาของตนนั้นยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป

ด้านนายแพทย์บรรพจน์ สุวรรณชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บได้ย้ายมาจากโรงพยาบาลจังหวัดนครราชสีมามาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์แล้ว 5 ราย อาการผู้บาดเจ็บอยู่ในขั้นไม่มีอันตราย แต่มีผ่าตัด 1 ราย เนื่องจากกระดูกข้อเข่า กระดูกขาซ้าย กระดูกซี่โครง กระดูกสันหลังหัก ยังเหลืออีก 32 คน ที่รอการส่งตัว ทางโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ก็พร้อมจะรับผู้บาดเจ็บเตรียมทั้งห้องผ่าตัดและห้องไอซียูไว้ ในปัจจุบันที่มีเคสเกี่ยวกับอุบัติเหตุ จะบาดเจ็บอวัยวะภายในทางโรงพยาบาลก็มีการเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา