สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยราคาบ้าน 2.5-5 ล้านบาทมาแรงสุด

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยราคาบ้าน 2.5-5 ล้านบาทมาแรงสุด

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน แจงผลการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus2018” 4 วัน ทำยอดขายทะลุเป้ากว่า 1,100 ล้านบาท เผยราคาบ้าน 2.5-5 ล้านบาทมาแรง

นางศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยถึงผลการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & MaterialsFocus2018” ระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. ภายใต้แนวคิด "Innovative Living” ซึ่งตลอด 4 วันของการจัดงานและมียอดจองสร้างบ้านภายในงาน 1,100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจบงานจะมียอดติดตามหลังงานเข้ามาอีกเนื่องจากลูกค้ายังไม่ตัดสินใจในงานโดยประเภทแบบบ้านราคาตั้งแต่ 2.5-5 ล้านบาทขึ้นไปได้รับยอดจองจากลูกค้ามากสุด

ทั้งนี้ จากตัวเลขยอดจองปลูกสร้างบ้านภายในงานที่เพิ่มขึ้น น่าจะมาจากหลายปัจจัย ทั้งภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2560 ผลการใช้จ่ายด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์อีกทั้งสภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเงินกู้ในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากนัก และผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การที่สมาชิกใหม่ของสมาคมฯ มีการนำแบบบ้านสำเร็จรูปมาเปิดตัวในงาน ทำให้งานครั้งนี้ ราคาแบบบ้านมานำเสนอมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ที่แบบบ้านราคาต่ำสุดอยู่ที่ 3 แสนบาท (เป็นแบบบ้านสำเร็จรูป) ไปจนถึงบ้านราคาหลัก 20 ล้านบาทขึ้นไป ตลอดจนโปรโมชั่นที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังมีสินเชื่อพิเศษจากสถาบันการเงินชั้นนำ ช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

“หากเปรียบเทียบในเชิงมูลค่าปลูกสร้างบ้านในงานครั้งนี้ อาจจะไม่สูงขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากแบบบ้านนำมาเสนอมีราคาต่ำลง ต่างไปจากปีก่อนๆ โดยเฉพาะบ้านสำเร็จรูป ในราคา 3 แสนบาท แต่เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสร้างบ้านที่มีคุณภาพจากบริษัทรับสร้างบ้าน และเป็นเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งตลาดจากผู้รับเหมาทั่วไปอีกด้วย นอกจากนี้แนวโน้มการปรับขึ้นราคาค่าก่อสร้างบ้าน และราคาวัสดุก็มีส่วนกระตุ้นการตัดสินใจผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย”

จากการประมวลผลข้อมูล ผู้ลงทะเบียนเข้าชมงาน พบว่า ระดับราคาบ้านที่ได้รับความสนใจจองปลูกสร้างมากที่สุด ยังเป็นแบบบ้านกลุ่มราคา 2.51-5 ล้านบาท คิดเป็น 38.1% รองลงมาเป็นราคา 5.01-10 ล้านบาท คิดเป็น 28.6% กลุ่มราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท คิดเป็น24.6%ที่เหลือกลุ่มราคา 10.01-20 ล้านบาท คิดเป็น 5.56% และราคา 20.01 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็น 3.17%

“งานดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมหลักสำคัญของสมาคมฯที่จะยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับกับผู้บริโภคโดยทั่วไป รวมถึงการเพิ่มศักยภาพความเชื่อมั่นธุรกิจรับสร้างบ้านโดยฝีมือคนไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น" นางศิริพร กล่าว