หวั่นพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนฉุดหุ้นยุโรปดิ่ง 3วันติด

หวั่นพิพาทการค้าสหรัฐ-จีนฉุดหุ้นยุโรปดิ่ง 3วันติด

ตลาดหุ้นยุโรป ปิดตลาดวันศุกร์ (23มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ตลาดหุ้นยุโรป ปิดตลาดวันศุกร์ (23มี.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.33 จุด หรือ -0.90% ปิดที่ 365.82 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี และร่วงลง 3.2% ตลอดทั้งสัปดาห์

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,886.31 จุด ร่วงลง 213.77 จุด หรือ -1.77% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,095.22 จุด ลดลง 71.99 หรือ -1.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,921.94 จุด ลดลง 30.65 จุด หรือ -0.44%

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ ด้านรัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ โดยพุ่งเป้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 128 รายการ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ว่าที่ประชุมจะอนุมัติรับรองข้อตกลงเบร็กซิทของอังกฤษหรือไม่ โดยอียูและอังกฤษบรรลุข้อตกลงในการยืดเวลาให้อังกฤษยังคงอยู่ในอียูต่อไปจนถึงสิ้นปี 2563 แต่จะมีบทบาทและอำนาจที่ลดน้อยลง และทั้ง 2 ฝ่ายกำหนดช่วงเวลาในการดำเนินกระบวนการเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 21 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.2562 จนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากอียูอย่างสมบูรณ์

การกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อให้ภาคธุรกิจและพลเมืองทั้งในอังกฤษและอียูมีเวลามากขึ้นในการเตรียมพร้อมสำหรับการแยกตัวของอังกฤษออกจากอียู และจะช่วยให้คณะเจรจาของอังกฤษและอียู มีเวลาในการสรุปการเจรจาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายขณะเริ่มปี 2564 ซึ่งเป็นที่คาดการณ์กันในวงกว้างว่าผู้นำชาติยุโรปจะรับรองข้อตกลงดังกล่าว