'ไอเฟค' วุ่นบอร์ดเสียงแตก ส่อลากยาวเปิดประชุมผู้ถือหุ้น

'ไอเฟค' วุ่นบอร์ดเสียงแตก ส่อลากยาวเปิดประชุมผู้ถือหุ้น

"ไอเฟค" ยังวุ่นไม่เลิก ความเห็นกรรมการแตก 2 ฝ่าย "ซีอีโอ" แจ้งก.ล.ต.ไร้อำนาจเรียกประชุมผู้ถือหุ้น เหตุคดียังไม่ถึงที่สุด-ไม่มีประธานบอร์ด ขณะที่บอร์ดตรวจสอบเปิดโอกาสผู้ถือหุ้นเสียงมากกว่า 5% เสนอรายชื่อกรรมการ

การประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ที่จะเป็นการไขกุญแจประตูไปสู่การเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ เพื่อสะสางปัญหาของบริษัทในด้านต่างๆ ส่อเค้าจะลุกลามบานปลายไม่มีสิ้นสุด จนไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะสามารถประชุมสามัญประจำปีในเดือนเม.ย.นี้ได้หรือไม่ เมื่อเกมส์ยื้ออำนาจบริหารยังไม่สิ้นสุด

ล่าสุด ไอเฟค โดยนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นกรรมการจากฝั่งนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยชี้แจงข้อมูลตามคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ให้บริษัทเรียกประชุมผู้ถือหุ้นและรายงานขั้นตอนการเรียกประชุมนั้น บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเกรงว่าจะขัดต่อกฎหมาย เนื่องจาก 1.คำพิพากษาของศาลแพ่งเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2561 ที่ให้เพิกถอนมติประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2560 วาระการเลือกตั้งกรรมการ คดียังไม่ถึงที่สุด และ 2.การที่บริษัทไม่มีประธานกรรมการ เนื่องจากนายวิชัยถูกก.ล.ต.กล่าวโทษ มีผลให้นายวิชัย ต้องพ้นจากกรรมการเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2560

ด้านคณะกรรมการตรวจสอบไอเฟค ทั้งพล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ประธานกรรมการตรวสอบ และนายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการตรวจสอบ ซึ่งเป็นกรรมการฝั่งนายวิชัยที่ต่อมาประกาศยืนเคียงข้างผู้ถือหุ้นรายย่อย แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อชี้แจงข้อมูลต่อ ก.ล.ต. เช่นกัน

โดยระบุว่ากรรมการบริษัท 2 ใน 3 คนที่เหลืออยู่คือพล.ต.บุญเลิศ และนายฉัตรณรงค์ ได้ประชุมร่วมกันแล้ว เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2561 โดยที่นายศุภนันท์ ไม่เข้าร่วมประชุม ได้ข้อสรุปว่าจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นไอเฟค เพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลง 4 ตำแหน่ง

นายฉัตรณรงค์ ชี้แจงในหนังสือว่า การจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการคืนสิทธิให้ผู้ถือหุ้น โดยจะให้ผู้ถือหุ้นที่มีเสียงเกิน 5% รายเดียว หรือหลายรายก็ได้ ยื่นเสนอรายชื่อกรรมการที่เป็นตัวแทนให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณามาที่ทำการของบริษัทภายใน 14 วัน นับจากวันที่บริษัทแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์

“หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนให้ผู้ถือหุ้นยื่นรายชื่อแล้ว บริษัทจะดำเนินการเรียกประชมผู้ถือหุ้นต่อไป ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 35 วัน นับจากวันที่กรรมการมีมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้น”