ค่าบาท 'ทรงตัว' ตลาดกังวลสงครามการค้า

ค่าบาท 'ทรงตัว' ตลาดกังวลสงครามการค้า

บาทเปิดตลาดเช้านี้ทรงตัว "31.26 บาทต่อดอลลาร์" ตลาดกังวลมาตรการกีดกันการค้าสหรัฐกับจีน แต่เชื่อว่าในอนาคตไม่น่ากระทบเอเชียรวมถึงไทย หากตลาดปรับตัวลงถึงจุดยังคงมีแรงซื้อต่างชาติเข้ามา

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.26บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจกับคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐชุดใหม่ ที่จะมีการกีดกันทางการค้ากับบริษัทจีนมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของภาษีการนำเข้า และการกำหนดขอบเขตให้บริษัทจีนไม่สามารถเข้ามาลงทุนในบริษัทสหรัฐได้ ซึ่งจะใช้เวลาศึกษาอีก 15 วันเพื่อกำหนดหลักการที่เป็นชัดเจน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง S&P500 ปรับตัวลงทันทีราว 2.5% ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10ปีก็ปรับตัวลงทันทีไปที่ระดับ 2.82% ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นแต่ระดับ 105.29 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง

ปัจจัยดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางการจีนให้ความเห็นว่าอาจต้องมีการตอบโต้ด้วยการกำหนดกำแพงภาษีเพื่อป้องกันเศรษฐกิจจีนเช่นกันและอาจนำไปสู่ภาวะสงครามทางการค้าที่ยืดเยื้อและไม่เป็นผลดีกับตลาดทุน

“แม้เราจะมองว่าการตอบโต้ทางการค้าไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องในระยะยาว แต่การ กีดกันทางการค้าก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำตั้งแต่แรก โอกาสที่ปัญหานี้จะยืดเยื้อจึงมีความเป็นไปได้สูง เชื่อว่าช่วงนี้สงครามการค้าจะขึ้นมาเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญเนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจ และเมื่อเปรียบเทียบกับภาวะสงครามทางการค้าในช่วงปี 1980 พบว่ามีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับฐานได้ราว 10% จากการขึ้นภาษี 25% ของทั้งสองฝั่ง โดยที่กลุ่มธุรกิจที่น่ากังวลมากที่สุดคือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของจีน”

อย่างไรก็ตามภาพสงครามการค้าดังกล่าวย้ำมุมมองเดิมของเราว่า สหรัฐยังไม่มีแนวคิดที่จะตั้งกำแพงภาษีอย่างเป็นระบบซึ่งจะส่งผลกับทุกประเทศ แต่จะตั้งกำแพงภาษีเป็นรายสินค้าและหลายประเทศเพื่อผลประโยชน์ด้านการเมืองเป็นหลัก จึงยังมีความเป็นไปได้ต่ำที่อนาคตจะส่งผลกระทบกับประเทศอื่นๆในแถบเอเชียรวมถึงไทย

ในส่วนของตลาดการเงินสิ่งที่ต้องระมัดระวังในช่วงนี้คือโอกาสที่ตลาดจะปิดรับความเสี่ยง (risk off) มีสูงขึ้นมาก นักลงทุนจะหลบไปพักในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำ เช่นค่าเงินเยนและหรือสินทรัพย์ทางเลือกเช่นทอง อาจมีบางส่วนที่ไหลเข้ามาพักในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นจุดที่มีความเสี่ยงกับสงครามการค้าไม่มากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น

ในส่วนของค่าเงินบาท เชื่อว่าในระยะสั้นมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง การอ่อนค่าจะเกิดจากแรงขายทำกำไรสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก แต่ก็จะมีแรงซื้อจากนักลงทุนรออยู่เมื่อตลาดปรับฐานลงถึงระดับที่น่าสนใจ มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.20 - 31.30 บาทต่อดอลลาร์