จีนกร้าว“สู้จนถึงที่สุด”สงครามการค้าสหรัฐ

จีนกร้าว“สู้จนถึงที่สุด”สงครามการค้าสหรัฐ

การออกมาตรการเรียกเก็บภาษีของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ได้ทำการสอบสวนตามมาตรา 301 ต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน

สถานทูตจีนประจำวอชิงตัน ดีซี ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนผิดหวังอย่างรุนแรงและคัดค้านการเก็บภาษีสินค้านำเข้าวงเงิน 60,000 ล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมทั้งยืนยันว่า จีนจะต่อสู้จนถึงที่สุดในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศด้วยมาตรการที่จำเป็นทุกมาตรการ

“จีนคัดค้านการกระทำของสหรัฐ จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้ากับใครแต่ก็ไม่กลัวและจะไม่ยอมหดหัวจากการทำสงครามการค้า หากสหรัฐ อยากทำสงครามการค้า จีนก็จะสู้จนกว่าจะถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศด้วยมาตรการตอบโต้ทุกอย่างที่จำเป็น” แถลงการณ์จากสถานทูตจีน ประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ระบุ

แถลงการณ์ตอบโต้ของจีน มีขึ้่นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีในวันนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ

“นี่เป็นมาตรการแรกของอีกหลายมาตรการที่จะตามมา โดยตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐต่อจีน ถือว่ามากที่สุดในบรรดาประเทศใดๆในประวัติศาสตร์โลก” ปธน.ทรัมป์ กล่าว โดยปธน.ทรัมป์เชื่อว่ามาตรการของเขาจะช่วยให้สหรัฐแข็งแกร่ง และมั่งคั่งขึ้น

สินค้าของจีนที่ตกเป็นเป้าหมายในการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐ เป็นสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีที่จีนมีข้อได้เปรียบเหนือสหรัฐ

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะสั่งการให้ยูเอสทีอาร์ เปิดเผยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีภายใน 15 วัน และจะมีช่วงเวลา 30 วันสำหรับการรับฟังความเห็นจากประชาชน ขณะที่ยูเอสทีอาร์ ระบุรายการสินค้าที่จะตกเป็นเป้าหมายแล้ว โดยเป็นสินค้าจำนวน 1,300 รายการ

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังสั่งการให้นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ เสนอการตั้งข้อจำกัดต่อการลงทุนของจีนในสหรัฐ