'ครูปรีชา' ควง 'เจ๊บ้าบิ่น' ร้องเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน

'ครูปรีชา' ควง 'เจ๊บ้าบิ่น' ร้องเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน

"ครูปรีชา" ควง "เจ๊บ้าบิ่น" ร้องเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน คดีหวย 30 ล้านเป็นดีเอสไอ

นายปรีชา ใคร่ครวญ น.ส.รัตนาภารณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ้บ้าบิ่น แม่ค้าขายล็อตเตอรี่ พร้อมทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีหวย 30 ล้านเป็นคดีพิเศษ โดยมีนายบำนาญ สุวรรณรักษ์ หัวหน้าศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับคำร้อง

นายปรีชา กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการซี 8 ถือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ การที่กล้าบอกว่าล็อตเตอรี่ในกระเป๋าของคนอื่นเป็นของเราต้องมีความมั่นใจว่าเราซื้อจริง ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นฝากถามไปยังร.ต.ท.จรูญ วิมูล ว่า ถ้าซื้อล็อตเตอรี่เองในฐานะทีเป็นคนไทย ถ้าถูกหวยต้องตามหาแม่ค้าเพื่อตอบแทนบุญคุณที่เขานำโชคลาภมาให้ แต่จนถึงวันนี้ไม่มีแม่ค้าคนใดแสดงตัวว่าเป็นผู้ขายหวยให้กับ นอกจากนี้อยากถามนักข่าวว่ามีใครเคยซื้อล็อตเตอรี่บ้างหรือไม่ ทราบหรือไม่ว่ายิ่งใกล้เวลาหวยจะออกเลขดังไม่มีขายบนแผง โดยเฉพาะเลขมงคล ในวันที่ 31 ต.ค.จะมีหวยบนแผงหรือไม่ เลข 26 ในวันนั้นไม่มีขายแน่นอน สั่งซื้อก็ไม่ได้ต้องเป็นลูกค้าประจำจริงๆ การที่นักข่าวไปลงว่าตนแจ้งความเท็จนั้น ขอถามกลับว่า สรุปได้อย่างไรว่าเป็นการแจ้งความเท็จ เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสินคดี. ตนยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น

นายปรีชา กล่าวถึงคลิปเสียงที่หลุดออกมา 4 คลิปว่า ได้ชี้แจงกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และทางกองปราบฯไปแล้ว โดยยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจก็ได้ยืนยันว่าไม่พบข้อพิรุธ โดยทางตำรวจภาค 7 ก็แถลงว่าล็อตเตอรีเป็นของตน ส่วนที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับร.ต.ท.จรูญ เป็นการลงบันทึกประจำวันตามปกติว่าเพื่อยืนยันว่าล็อตเตอรี่ของตนหายจริง ซึ่งการสอบสวนของตำรวจก็ต้องติดตามว่า ล็อตเตอรี่ฉบับดังกล่าวอยู่ที่ใด อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อยื่นคำร้องขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม นายปรีชาไม่ตอบคำถามเรื่องการเจรจายุติคดีแบ่งเงินกับร.ต.ท.จรูญ

สำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรมของนายปรีชา ระบุว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บชก.)ร่วมกันแจ้งขอกล่าวหากับตนและพยานฐานร่วมแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ เป็นพฤติการณ์ที่ไม่เป็นธรรมโดยมีรายละเอียดดังนี้. 1 เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 61 ตำรวจภูธรภาค 7 สรุปความเห็นจะดำเนินคดีในข้อหาเก็บของตกหล่น ยักยอกทรัพย์และรับของโจรแต่ยังไม่ได้ออกหมายเลข ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งโอนคดีไปให้กองบัญชาการสอบสวนกลางและกองปราบปรามรับผิดชอบ ภายหลังการโอนคดีได้สอบปากคำตนและพยานในลักษณะข่มขู่ ชี้นำ โน้มน้าว กดดัน ด้วยวิธีการต่างๆ นานถึง 18 ชม. นอกจากนี้ในการสอบสวนยังมีการอ้างและมีการติดต่อสื่อสารมาใช้ในการสอบสวนโดยมิชอบ เนื่องจากไม่ได้ขอหมายจากศาลหรือมีคำสั่งศาลเกี่ยวกับการตรวจหรือเปิดเผยข้อมูลการสื่อสารแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ประเด็นที่ 2.วันที่ 28 กพ.61 ผบ.ตร.แถลงผลการสอบสวนในทำนองว่าตนได้แจ้งหรือให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าหนักงาน ซึ่งขัดต่อหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ โดยไม่ปรากฏชัดเจนว่าหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร และตนแจ้งความอันเป็นเท็จอย่างไร นอกจากนี้ผบ.ตร.ยังได้ยกคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2530 ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและคาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเพราะคำพิพากษาศาลในฎีกากับคดีกับคดีที่กล่าวหาตนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในวันเดียวกันกองปราบก็ยื่นคำร้องต่อศาลให้ออกหมายจับตนและเจ้บ้าบิ่น ในขณะปฎิบัติหน้าที่สอนนักเรียนที่โรงเรียนเทพมงคลรังสี เพื่อให้เป็นข่าวครึกโครม ดังประหนึ่งว่า ตนและเจ้บ้าบิ่นเป็นผู้ร้ายในคดีอุกฉกรรจ์ และจับกุมเหมือนตนมีพฤติการณ์หลบหนี การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจขาดความเป็นมาตรฐานน่าเชื่อถือ ลำเอียง ขัดแย้งต่อผลประโยชน์และความเป็นธรรม ขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

พนักงานสอบสวนได้ชักจูงบีบบังคับ โน้มน้าว ให้ตนและเจ้บ้าบิ่นให้รับสารภาพ ซึ่งตนจะรับสารภาพได้อย่างไรในเมื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกคุมขังถึง 48 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนเชิญไปสอบปากคำได้ตลอดเวลาทั้งกลางวัน กลางคืน การกระทำดังกล่าวของกองปราบไม่มีมาตรฐาน อีกทั้งคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน หากเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมแสดงออกถึงความไม่เที่ยงธรรม จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม สร้างความคลางแคลงใจต่อประชาชน ตนในฐานะผู้เสียหายโดยตรง จึงขอให้สอบสวนด้วยความเป็นธรรมโดยย้ายคดีให้ดีเอสไอมาดำเนินการต่อ

ขณะที่นายบำนาญ กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบเอกสารการยื่นคำร้องของนายปรีชาทั้งหมดแล้ว ภายในวันนี้ (22 มี.ค.) ตนจะส่งคำร้องดังกล่าวให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้พิจารณาส่งเรื่องไปยังดีเอสไอ ส่วนดีเอสไอจะรับคดีดังกล่าวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ อย่างไรก็ตาม การยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมของนายปรีชามิสิทธิทำได้ตามกฎหมาย หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

\'ครูปรีชา\' ควง \'เจ๊บ้าบิ่น\' ร้องเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน