วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 มี.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 มี.ค.61)

ราคาน้ำมันดิบปรับลดตามตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปรับตัวลดลงอย่างหนัก

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นของสหรัฐ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 335.60 จุดลงไปแตะระดับ 24,610.91 จุด หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลของการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตใน Facebook ประกอบกับแนวโน้มการเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมไปถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบายของสหรัฐ ในเดือนนี้

- จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ใน 8 สัปดาห์หลังสุด โดย Baker Hughes ได้รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 แท่น ขึ้นไปแตะระดับ 800 แท่นซึ่งมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ระดับ 631 แท่น

+ ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบียยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มกุฏราชกุมารของซาอุดิอาระเบียได้วางแผนที่จะเดินทางไปสหรัฐ เพื่อหารือในแนวทางการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง เพื่อเป็นการตอบโต้โปรแกรมอาวุธนิวเคลียร์และบทบาทของอิหร่านในสงครามซีเรีย

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนของอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซียและกาตาร์ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลยังคงอยู่ในระดับที่ดี ประกอบกับอุปทานน้ำมันดีเซลยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาล

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 59 - 64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 62 - 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 มี.ค. 2560 ปรับเพิ่มขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 430.9 ล้านบาร์เรล
  • กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย EIA คาดปริมาณการผลิตของสหรัฐ ในปี 2561 จะปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับเฉลี่ยที่ 10.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 11.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐ แซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก
  • จับตาสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย หลังเกิดเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ส่งผลกระทบให้ลิเบียต้องประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) และหยุดดำเนินการผลิตจากแหล่งน้ำมันดิบ El Feel ซึ่งมีกำลังการผลิตราว 70,000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าลิเบียจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในการเปิดดำเนินการแหล่งผลิตน้ำมันดิบดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 61 ก็ตาม

----------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)         

         โทร.02-797-2999