'ชาวลาว' ข้ามฝั่งใช้คิวอาร์โค้ดซื้อสินค้าไทยได้เป็นครั้งแรก

'ชาวลาว' ข้ามฝั่งใช้คิวอาร์โค้ดซื้อสินค้าไทยได้เป็นครั้งแรก

"ธนชาต" จับมือพันธมิตรในลาวเปิดให้คนลาวใช้ "คิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์" ซื้อสินค้าและบริการในไทยได้ ถือเป็นการใช้คิวอาร์โค้ดข้ามแดนเป็นครั้งแรก พร้อมขยายความร่วมมือสู่กลุ่ม CLMV หนุนร้านค้าไทยรับลูกค้าประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ เครือข่ายลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารธนชาตคิดต่อยอดนำระบบดังกล่าวร่วมกันพัฒนาในการใช้มาตรฐาน QR Code สำหรับธุรกรรมชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ข้ามประเทศครั้งแรก โดยร่วมมือกับ BCEL ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำระดับประเทศที่ธนชาตมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน และมีบริการโมบายแอพฯ เพื่อทำรายการภายในประเทศอยู่แล้ว โดยร่วมกันพัฒนาโมบายแอพฯ ให้สามารถสแกน QR Code ชำระค่าสินค้าและบริการข้ามประเทศได้เป็นครั้งแรก

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ธนชาตจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนชำระเงิน (Sponsor Bank) ในประเทศไทยให้กับ BCEL เมื่อลูกค้าของ BCEL เดินทางมาประเทศไทย สามารถใช้โมบายแอพฯ สแกนซื้อสินค้าในไทยร้านใดก็ได้ที่รับชำระด้วยมาตรฐาน QR Code ไม่ว่าร้านค้านั้นจะเป็นลูกค้าของ ธนาคารใดก็ตาม โดยธนชาตจะทำหน้าที่ชำระเงินให้แก่ร้านค้านั้นๆ ผ่านระบบ PromptPay ซึ่งมีมาตรฐาน ความปลอดภัยสูงสุด เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้แก่ผู้จ่ายและผู้รับ ลดภาระการถือเงินสด ลดความเสี่ยง ในการแปลงสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 2 ของปี 2561


“ในช่วงเฟสแรก ธนชาตจะร่วมมือกับ BCEL ก่อน จากนั้นมีแผนจะขยายความร่วมมือ ในการให้บริการไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม) เนื่องจากเป็นบ้านใกล้ เรือนเคียงที่เข้ามาท่องเที่ยวและทำงานในไทยแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ตัวเลขจากกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาราว 3.7 ล้านคน มียอดใช้จ่ายราว 113,738 ล้านบาทและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี จากนั้นในเฟส 2 ธนชาตจะร่วมมือ กับธนาคารพาณิชย์ไทยรายอื่นๆ พัฒนาโมบายแอพฯ เพื่อให้ คนไทยสามารถจับจ่ายซื้อสินค้า ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยชำระผ่าน QR Code ได้เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3 ของปี 2561” นายอนุวัติร์กล่าว

\'ชาวลาว\' ข้ามฝั่งใช้คิวอาร์โค้ดซื้อสินค้าไทยได้เป็นครั้งแรก


นายคำเซี่ยน มิ่งบุปผา รองผู้อำนวยการใหญ่ BCEL กล่าวว่า ซึ่งปัจจุบันบริการทางการเงิน ในระบบดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน จะเห็นได้จากในประเทศลาวเอง มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นปีละ 54% และธุรกรรมทางการเงินผ่าน e-Banking เพิ่มขึ้น 85% ปีต่อปี โดยเมื่อต้นปี BCEL ได้เปิดให้บริการ BCEL One Pay ซึ่งเป็นบริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR Code เป็นครั้งแรกใน สปป.ลาวซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยฟังก์ชั่นนี้อยู่ในโมบายแอพฯ BCEL One ที่ธนาคารเปิดตัวไปเมื่อปี 2559