'อนุพงษ์' ย้ำงบ 3 หมื่นล้าน พัฒนารากฐานชาวบ้าน ปัดปูทางเลือกตั้ง

'อนุพงษ์' ย้ำงบ 3 หมื่นล้าน พัฒนารากฐานชาวบ้าน ปัดปูทางเลือกตั้ง

“พล.อ.อนุพงษ์” ย้ำงบ 3 หมื่นล้าน พัฒนารากฐานชาวบ้าน ปัดปูทางเลือกตั้ง เผยรับฟังความเห็นไทยนิยมรอบแรก 8 หมื่นกว่าแห่งจบแล้ว เดือน เม.ย.พร้อมสรุปผลความต้องการ ปชช.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยได้รับงบกลางปีจำนวนมากและถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะใช้เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยนิยม ยั่งยืนว่า งบประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาทนั้น งบก้อนใหญ่สุดประมาณ 2 หมื่นล้านบาทจะให้กับหมู่บ้าน ชุมชน จำนวน 82,000 กว่าแห่ง ตกหมู่บ้านละ 2 แสนบาท ซึ่งการทำแผนงานจะมีการตรวจสอบตามขั้นตอนและตนได้สั่งการให้นำภาคเอกชน ประชาสังคม มาร่วมพิจารณาและเบิกจ่ายตรงโดยคณะกรรมหมู่บ้านโดยไม่ผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อความโปร่งใสเพราะคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์นายกฯคงมาสอบถามว่ามีการทุจริตตรงไหนบ้าง การให้ภาคส่วนต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมถือเป็นการฉีดวัคซีนไว้ก่อน และจะไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน ส่วนงบอีก 2,500 ล้านบาทจะสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมอบให้กับชุดที่จะตรวจสอบผู้ถือบัตรตามที่ใช้จริง และงบที่เป็นของมหาดไทยโดยตรงคืองบกว่า 9,000 ล้านบาท คืองบพัฒนาโครงการโอทอป

เมื่อถามว่าการใช้งบประมาณเช่นนี้จะถูกมองว่าเตรียมการเพื่อไปสู่การเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี ที่ผ่านมาทุกคนต่างรู้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมดี แต่ฐานรากยังไม่ดี หน้าที่ของรัฐบาลคือเข้าไปแก้ระดับฐานรานทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่ม ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ต่อให้ทำอย่างไรคุณก็วิจารณ์ทั้งนั้น ส่วนที่นายกฯจะลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู นั้น ผู้กำหนด กำหนดการคือสำนักนายกรัฐมนตรี หากรู้ว่าจุดหมายคือที่ใดจะไปดูความเรียบร้อยในพื้นที่นั้น

นอกจากนี้พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการไทยนิยมยั่งยืนว่า ขณะนี้การรับฟังความคิดเห็นรอบที่ 1 จำนวน 80,000 กว่าแห่งจบแล้ว โดยเที่ยวแรกได้สร้างความเข้าใจประชาชน สร้างความรับรู้ประชาธิปไตย ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และขณะนี้อยู่ระหว่างการประมวลผลว่าประชาชนมีความต้องการอะไร ส่วนที่บอกว่าเป็นความต้องการเบื้องต้นนั้นเพราะผู้ทำเป็นคณะกรรมการหมู่บ้านของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรจะเป็นสปก. ต้องแปลความต้องการว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้บ้างตามเงื่อนไขต่างๆ และคงต้องรอประมาณเดือน เม.ย.ว่าโครงการต่างๆ ตอบโจทย์หรือไม่ และถ้าสรุปขั้นต้นได้จะเรียนนายกฯ แต่คงจะยังไม่เห็นภาพอะไรมาก โครงการยังไม่ได้เพราะแต่ละพื้นที่ต้องไปดูก่อนว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่.